สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า บรรดาบริษัทนักพัฒนาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตสภาพคล่อง เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายตราสารหนี้ หรือบอนด์ในสกุลเงินดอลลาร์ออกมาอย่างหนาแน่น และแรงเทขายดังกล่าวกำลังลุกลามเข้ามายังตลาดในประเทศด้วย
โดยเมื่อวานนี้ (4 พฤศจิกายน) ตราสารที่มีการเทขายมากที่สุด เป็นของบริษัท Kaisa Group Holdings Ltd. หลังมีรายงานว่าตราสารหนี้ในต่างประเทศของบริษัทเพิ่งจะผิดนัดชำระหนี้ไป ขณะที่ราคาตราสารหนี้ของ Shimao Group Holdings Ltd. ที่มีกำหนดชำระหนี้ในปี 2022 ปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากเพื่อหวังจูงใจนักลงทุน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ขณะนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนกำลังตกเข้าสู่ห้วงวงจรอุบาทว์ที่ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของ Evergrande กำลังลุกลามเป็นวงกว้าง ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มสูงขึ้น และยิ่งทำให้ตราสารหนี้ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดหนักกว่าเดิม บวกกับการชะลอตัวในธุรกิจอสังหาฯ และกฎควบคุมที่เข้มงวด ตลอดจนการเข้าถึงเครดิตที่ยากขึ้น ก็ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของจีนชะลอตัวในอัตราที่เร็วที่สุด
ทั้งนี้ หลายฝ่ายต่างจับตาดูว่า รัฐบาลจีนจะออกมาแก้เกมอย่างไร เพราะอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งก็เชื่อว่า จีนจะไม่ปล่อยให้ตลาด ซึ่งเป็นหนึ่งในรายได้สำคัญของประเทศตกต่ำจนเข้าสู่วิกฤต
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP
