วันนี้ (6 พฤษภาคม) พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่เกิดเหตุถล่ม
โดยระบุว่า ขณะนี้พยานหลักฐานในคดีที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีความครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงรอเอกสารชี้แจงข้อกล่าวหาจากผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน ก่อนจะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาภายใน 20 วัน
พ.ต.ต. วรณัน กล่าวเพิ่มเติมภายหลังอธิบดี DSI เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคดีว่า การสอบสวนแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก ดังนี้
- คดีนอมินี: การสอบสวนพยานหลักฐานเสร็จสิ้น อยู่ในขั้นตอนรอผู้ถูกกล่าวหา 4 รายนำส่งเอกสารชี้แจงข้อกล่าวหาเพื่อประกอบสำนวน คาดว่าจะส่งสำนวนให้อัยการได้ไม่เกิน 20 วัน ส่วนกรณี บิน ลิงวู ยังไม่ได้อยู่ในฐานะพยาน แต่เป็นประเด็นที่พนักงานสอบสวนกำลังขยายผลและเตรียมเรียกเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
- คดีฮั้วประมูล: กำลังสอบสวนว่ามีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐหรือไม่ โดยมีพยานหลักฐาน 2 ส่วน คือส่วนที่ DSI รวบรวมเอง และส่วนที่ได้จากคำกล่าวโทษของพยานที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมงานที่ไม่ถูกต้อง ขณะนี้พบว่าการประมูลโครงการ สตง. มีเพียงบริษัทก่อสร้างที่เข้าประมูล ส่วนบริษัทควบคุมงานและออกแบบเป็นการคัดเลือก DSI กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน โดยได้สอบปากคำวิศวกรที่ลงนามในใบควบคุมงานเกือบครบแล้ว และได้ส่งลายเซ็นบางส่วนให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ เนื่องจากมีทั้งผู้ที่ยอมรับและปฏิเสธว่าเป็นลายเซ็นของตนเอง
- คดีเลี่ยงภาษี: สืบเนื่องจากกรมสรรพากรได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด ขณะนี้ DSI ได้ส่งเอกสารการยื่นเสียภาษีของบริษัทดังกล่าวไปให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบว่าบริษัทมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ก่อนจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำต่อไป
ส่วนประเด็นการเก็บพยานหลักฐานจากซากอาคาร พ.ต.ต. วรณัน กล่าวว่า เป็นการดำเนินการร่วมกันของ 3 หน่วยงาน คือ กรมโยธาธิการและผังเมือง (เก็บตัวอย่างคอนกรีต), สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (เก็บตัวอย่างเหล็กเส้น) และกองพิสูจน์หลักฐาน (ตรวจและออกรายงาน)
โดย DSI จะใช้รายงานผลการตรวจสอบร่วมกัน สำหรับข้อเสนอแนะให้เก็บเศษปูนจากการรื้อถอนเพิ่มเติมนั้น ได้ประสานให้กรมโยธาธิการฯ ดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้า