รัฐบาลจีนสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ ไม่ถึงเป้าตามข้อตกลงการค้าที่ทำไว้กับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการลดกำแพงภาษีบนสินค้านำเข้าจากจีนรวมมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 3.6 ล้านล้านบาท
ตามข้อตกลงดังกล่าว รัฐบาลจีนให้คำมั่นจะสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มอีกกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 6 ล้านล้านบาท ระหว่างปี 2020-2021 โดยเป็นยอดการสั่งซื้อเพิ่มเติมจากตัวเลขการนำเข้าสินค้าของจีนจากสหรัฐฯ ในปี 2017
แต่ข้อมูลของรัฐบาลจีนชี้ว่า จนถึงตอนนี้ จีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ รวมมูลค่า 1.35 แสนล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4 ล้านล้านบาทเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ รวมมูลค่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ยังเป็นสินค้าที่ไม่ตรงตามหมวดหมู่ที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ในข้อตกลงว่า ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ทางเกษตร ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงาน และผลิตภัณฑ์ด้านพลังงาน
หมายความว่า จีนสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ ตรงตามเงื่อนไขของข้อตกลงได้เพียง 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
หากแบ่งตามหมวดหมู่สินค้าแล้ว จะพบว่า จีนบรรลุเป้านำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ตามข้อตกลงเพียง 64% ในประเภทสินค้าทางการเกษตร, สินค้าที่ผลิตในโรงงาน 60% และสินค้าด้านพลังงานเพียง 39%
สถาบันปีเตอร์สันวิเคราะห์ว่า สรุปแล้ว จีนบรรลุข้อตกลงได้เพียง 58% เท่านั้น ซึ่งหากรัฐบาลจีนต้องการปฏิบัติตามข้อตกลง จะต้องสั่งซื้อสินค้าให้ได้ถึง 1.73 แสนล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 5.2 ล้านล้านบาท
ผู้สังเกตการณ์มองว่า ข้อตกลงการค้าที่เกิดขึ้นช่วงเดือนมกราคม ปี 2020 นี้ จะช่วยแก้ปัญหาสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 (สหรัฐฯ) และอันดับ 2 (จีน) ของโลก ซึ่งในช่วงเวลานั้น ทั้งสองประเทศต่างตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของอีกประเทศ
โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเวลานั้น ยกย่องข้อตกลงนี้ว่าเป็น ‘ข้อตกลงที่จะเปลี่ยนโฉม’ การค้าของสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงจะช่วยปกป้องแรงงานชาวอเมริกันอีกด้วย
ทั้งนี้ นับแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 แพร่ระบาด ส่งผลให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับจีนมากขึ้น โดยสหรัฐฯ นำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับการทำงานจากบ้าน หรือ Work from Home จากจีนเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2020
ข้อมูลจากรัฐบาลจีนชี้ให้เห็นว่า อุปทานที่สูงขึ้นจากสหรัฐฯ ทำให้จีนส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ คิดเป็นปริมาณ 3 เท่า เมื่อเทียบกับปริมาณที่จีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ
ภาพ: STR / AFP
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
