จีนถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มครั้งแรกในรอบ 8 เดือน สวนทางญี่ปุ่นถือลดลง หลังเยนอ่อนค่าเกือบ 20% ในปีนี้

จีนเพิ่มการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ขณะที่ญี่ปุ่นกลับลดการถือครองลง ท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินเยนเกือบ 20% ในปีนี้

ข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จีนสะสมพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 9.7 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม จาก 9.67 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2010 โดยขณะนั้นจีนถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 8.43 แสนล้านดอลลาร์เท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ในทางกลับกัน ญี่ปุ่นกลับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เหลือ 1.234 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม จาก 1.236 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังคงเป็นผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ นอกประเทศรายใหญ่ที่สุดอยู่

ทั้งนี้ การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของญี่ปุ่น จะเคลื่อนไหวสอดคล้องกับของตลาดสกุลเงินไม่มากก็น้อย โดยตั้งแต่ต้นปี 2022 เงินเยนที่อ่อนค่าลง 19.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มโอกาสให้ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสนับสนุนค่าเงินของญี่ปุ่น

โดยรวมแล้วในเดือนกรกฎาคมประเทศต่างๆ ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะ 7.501 ล้านล้านดอลลาร์ จาก 7.430 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ทำให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิจากต่างประเทศเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยในเดือนกรกฎาคมมีกระแสเงินไหลเข้า 2.31 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 5.89 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า

สำหรับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ในเดือนกรกฎาคม ต่างชาติขายหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน เป็นจำนวนเงิน 6.032 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับการไหลออก 2.536 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน โดยการไหลออกของเดือนกรกฎาคมยังใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม

ขณะที่บอนด์ของภาคเอกชนสหรัฐฯ มีเงินไหลเข้าที่ 8.78 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ลดลงจากการไหลเข้า 1.39 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน โดยต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อสุทธิของหุ้นกู้สหรัฐฯ 7 เดือนติดต่อกัน

ข้อมูลกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังแสดงให้เห็นว่า ชาวอเมริกันลดการถือครองหลักทรัพย์ต่างประเทศระยะยาวอีกครั้ง ด้วยยอดขายสุทธิ 2.72 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 5.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน

อ้างอิง: