ทางการจีนเปิดเผยว่าเศรษฐกิจจีนมีอัตราขยายตัว 6.4% ในไตรมาสแรกของปี 2019 เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์จากโพลสำรวจของ Reuters ซึ่งคาดว่าจะเติบโตที่ 6.3% โดยตัวเลขดังกล่าวฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดได้ไม่น้อย หลังจากที่รัฐบาลงัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้ ท่ามกลางสัญญาณชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา
เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีน (GDP) เติบโตทรงตัวที่ 6.4% ขณะที่ GDP ไตรมาสแรกของปี 2018 เติบโตที่ระดับ 6.8%
นอกจากตัวเลข GDP ที่ส่งสัญญาณบวกโดยโตเร็วกว่าที่คาดแล้ว ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ของจีนก็บ่งชี้ถึงทิศทางที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน โดยตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคมพุ่งขึ้น 8.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2014 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของ Reuters ที่ระดับ 5.9%
ขณะที่ยอดค้าปลีกของจีนขยายตัว 8.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี เช่นเดียวกับตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ก็เติบโตถึง 6.3% ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับปีก่อน
“เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดหมายไว้ด้วยแรงขับเคลื่อนจากนโยบายของรัฐบาลจีน” เกรซ อู๋ นักเศรษฐศาสตร์แห่ง J.P. Morgan Chase & Co. ในฮ่องกง แสดงความเห็นกับ Bloomberg
ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้เกิดข้อถกเถียงตามมาว่าจีนยังจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่ เกรซ อู๋ เชื่อว่าธนาคารกลางและกระทรวงการคลังของจีนอาจขยับโดยการกำหนดกลยุทธ์ใหม่ นอกจากนี้เธอยังมองว่านโยบายระดับมหภาคในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีลักษณะที่ไม่ผ่อนปรนไปมากกว่านี้ แต่ขณะเดียวกันก็จะไม่เข้มงวดขึ้น โดยจากนี้ไปจีนอาจพิจารณาถอนมาตรการทางการคลังภายในช่วงสิ้นปี หลังจากที่ภาครัฐเพิ่มการใช้จ่ายไปมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: