ในที่สุดบรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ของ China Evergrande ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์อันดับ 2 ของจีน หลังบริษัทไม่สามารถชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้มูลค่า 82.5 ล้านดอลลาร์ภายในช่วงระยะเวลาผ่อนผัน 30 วัน ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่ Evergrande ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ทางการจีนออกมาเคลื่อนไหวส่งสัญญาณชัดเจนว่า China Evergrande หนีไม่พ้นชะตากรรมที่จะต้องเดินหน้าปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน
รายงานระบุว่า การปรับโครงสร้างหนี้ครั้งนี้หมายความว่า เหล่าเจ้าหนี้คือผู้ถือพันธบัตรของบริษัทมูลค่ากว่า 19,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้องเผชิญกับการแฮร์คัต หรือการลดมูลค่าหนี้อย่างหนัก ในขณะที่บริษัทเองต้องปรับโครงสร้างครั้งใหญ่โดยปราศจากเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลานานและเสี่ยงว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของจีน
ทั้งนี้ ประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจในขณะนี้คือ ความสามารถของรัฐบาลจีนว่าจะจำกัดความเสียหายของปัญหา China Evergrande ไม่ให้ส่งผลกระทบในวงกว้างได้หรือไม่ เพราะขณะนี้บรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนรายย่อยอื่นๆ ต่างเผชิญกับปัญหาราคาหุ้นตกต่ำ โดยรายงานระบุว่า มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนอย่างน้อย 10 แห่ง ต้องผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกรณีที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ กรณีของ Kaisa Group Holdings ซึ่งออกพันธบัตรในสกุลเงินดอลลาร์ ที่ล่าสุดถูกระงับการซื้อขายเป็นครั้งที่ 2 ในตลาดหุ้นฮ่องกง เนื่องจากปัญหาหนี้มหาศาลที่ Kaisa ประสบภาวะติดขัดในการชำระหนี้
สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Kaisa มีแนวโน้มที่จะไม่สามารถชำระหนี้พันธบัตรต่างประเทศมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ทันกำหนด
ขณะนี้ทางการจีนแสดงจุดยืนที่ชัดเจนแล้วว่า มีแผนที่จะวางแนวรั้วป้องกันและจำกัดผลกระทบจากปัญหา China Evergrande แทนที่จะช่วยเหลือด้วยการเข้าไปอุ้มเหมือนกับวิกฤตที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา เห็นได้จากการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านหยวนเข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านข้อตกลง Reverse Repo ประเภทอายุ 7 วัน ซึ่งกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 2.2 เปอร์เซ็นต์ โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้มีเสถียรภาพอย่างเหมาะสม
จนถึงขณะนี้ China Evergrande ยังไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวใดๆ ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทร่วงหนักแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ (8 ธันวาคม) ขณะที่สัญญาขายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับชั้นนำ 100 แห่งของจีนปรับตัวดิ่งลง 38% ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า อีกทั้งยังลดลง 32% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมก่อนหน้า
แม้จะยังเร็วเกินไปที่จะประเมินมูลค่าความเสียหาย แต่นักวิเคราะห์หลายสำนักเชื่อว่า จีนยังคงต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคอีกมาก ซึ่งส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจชะลอตัว และการชะลอตัวดังกล่าวจะส่งผลต่อบรรดาประเทศคู่ค้าของจีน รวมถึงสหรัฐฯ ท่ามกลางความจำเป็นที่นานาประเทศต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด
อ้างอิง:
- www.aljazeera.com/economy/2021/12/8/bb-4
- https://www.channelnewsasia.com/business/evergrande-shares-new-low-china-debt-crisis-kaisa-2365481
- https://www.cnbc.com/2021/12/08/trading-of-chinese-property-developer-kaisa-shares-halted-in-hong-kong.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP