สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน รายงาน GDP ปี 2563 เติบโต 2.3% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่ประเทศอื่นทั่วโลกกำลังเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วน GDP ไตรมาส 4 ปี 2563 ขยายตัว 6.5% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าจีนจะเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักเพียงแห่งเดียวที่ GDP มีการเติบโตในปี 2563
เช้าวันนี้ (18 มกราคม) สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานอัตราการเติบโตของ GDP ปี 2563 เติบโตขึ้น 2.3% เทียบกับปีก่อน ในขณะทั่วโลกกำลังพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โดย GDP ในไตรมาส 4 ปี 2563 ขยายตัว 6.5% อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณการชะลอตัวของภาคการบริโภค ประชาชนจีนลังเลในการจับจ่ายใช้สอย สะท้อนจากยอดค้าปลีกในประเทศที่หดตัว 3.9% ในปีนี้ ส่วนไตรมาส 4 ปีที่แล้วยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 4.6% จากปีก่อนหน้า
ส่วนยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 14.8% ในปีที่แล้ว แต่สัดส่วนของยอดค้าปลีกโดยรวมค่อนข้างคงที่ประมาณ 25%
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจีนจะเป็นเศรษฐกิจหลักเพียงประเทศเดียวที่เติบโตในปีที่แล้ว และคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัวมากกว่า 2%
ทั้งนี้โควิด-19 เกิดขึ้นครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นของจีนในช่วงปลายปี 2562 ด้วยความพยายามที่จะควบคุมไวรัส ทางการจีนได้ล็อกดาวน์ประเทศกว่าครึ่ง และเศรษฐกิจหดตัว 6.8% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนกลับมาเติบโตภายในไตรมาสที่ 2 ปีเดียวกัน ขณะที่ความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Reuters คาดการณ์ว่า GDP จะเพิ่มขึ้น 6.1% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2563
ในช่วงปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ลดอัตราการเติบโตอย่างเป็นทางการของจีนสำหรับปี 2562 เป็น 6.0% เทียบกับที่รายงานก่อนหน้านี้ 6.1% การปรับลด GDP ครั้งใหญ่เกิดขึ้นในภาคการผลิต เนื่องจากโรงงานต่างๆ ต้องรับมือกับภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ยังมีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของจีนอื่นๆ ดังนี้
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 7.3% ในเดือนธันวาคม เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน และขยายตัว 2.8% ในปี 2563
- ยอดค้าปลีกขยายตัว 4.6% ในเดือนธันวาคม แต่ลดลง 3.9% ในปี 2563 เนื่องจากโรคระบาด
- การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 2.9% ในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2562
- เศรษฐกิจขยายตัว 2.6% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3
- ณ สิ้นเดือนธันวาคม อัตราว่างงานอยู่ที่ 5.2%
ทั้งนี้เมื่อมองไปข้างหน้า นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า GDP ของจีนในปีนี้จะขยายตัว 8.2% แซงหน้าประเทศอื่นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่นๆ จะเริ่มฟื้นตัวด้วยการฉีดวัคซีน
การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2564 จะขึ้นอยู่กับว่าจีนสามารถควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ในวงกว้างได้หรือไม่ และสามารถส่งต่อการใช้จ่ายจากรัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐไปยังธุรกิจขนาดเล็กและผู้บริโภคได้หรือไม่
นอกจากนี้ปัจจัยด้านความสัมพันธ์ทางการค้าที่ตึงเครียดมากขึ้นกับสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนได้ โดยในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพิ่มข้อจำกัดเกี่ยวกับธุรกิจของจีนเพื่อจำกัดการครอบงำในอุตสาหกรรมไฮเทค รวมถึงการรุกตลาดการเงิน ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าฝ่ายบริหารที่เข้ามาภายใต้การทำงานของผู้นำคนใหม่อย่าง โจ ไบเดน จะนำเสนอประเด็นเหล่านั้นอย่างไร
ความต้องการสินค้าที่ผลิตจากจีนทั่วโลกคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากการระบาดใหญ่ยังคงทำให้ประชากรส่วนใหญ่ของโลกไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ จีนจึงเป็นผู้ส่งออกอันดับต้นๆ มูลค่าการส่งออกสินค้าของจีนเพิ่มขึ้น 3.6% ในปี 2563 ส่วนการนำเข้าลดลง 1.1% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 5.35 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/01/18/china-economy-release-of-fourth-quarter-full-year-2020-gdp.html
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-01-18/china-s-economy-grew-2-3-in-2020-accelerating-global-rise?sref=CVqPBMVg
- https://www.reuters.com/article/us-china-economy-activity/china-industrial-output-rises-7-3-year-on-year-in-december-retail-sales-miss-forecast-idUSKBN29N042?il=0