เฉิงหลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจีนจาก Brookings Institution ในสหรัฐอเมริกา ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีนอาจสะท้อนให้เห็นว่าจีนเน้น ‘ความต่อเนื่อง’ มากกว่า ‘การเปลี่ยนแปลง’ ในด้านนโยบายเศรษฐกิจ
สำหรับการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 นี้ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าประธานาธิบดี สีจิ้นผิง จะดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศยาวต่อเป็นสมัยที่ 3 แต่สิ่งที่น่าจับตากันต่อคือ คณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือโปลิตบูโร ทั้ง 7 คนนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนไปในทิศทางใด ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่มีทีท่าถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง
หลี่ระบุว่า การคัดเลือกผู้นำทั้ง 7 คนจะเป็นการสะท้อนนโยบายเศรษฐกิจและการเมืองของจีน พร้อมกล่าวว่า “ใครก็ตามที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะส่งสัญญาณถึงความต้องการหลักของ สีจิ้นผิง”
สำหรับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอย่าง หลี่เค่อเฉียง จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนมีนาคมปีหน้า ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วนายกรัฐมนตรีของจีนจะมีบทบาทหน้าที่ในการดูแลเศรษฐกิจของจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวในอัตราที่ช้าลง ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการสกัดโควิดที่เข้มงวดของรัฐบาล
เฉิงหลี่ กล่าวว่า ผู้นำ 4 คนที่เป็นไปได้ว่าจะมาเข้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน ได้แก่ หานเจิ้ง, หูชุนหัว, หลิวเฮ่อ และ วังหยาง โดย หานเจิ้ง และ วังหยาง นั้นเป็น 2 ใน 7 ของคณะกรรมการถาวรของโปลิตบูโรชุดปัจจุบัน ส่วนหูและหลิวอยู่ในคณะกรรมการสำรองกรมการเมือง 25 คน โดยทั้ง 4 คนนี้เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจีนมาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งตรงกับข้อกำหนดเบื้องต้นของจีนที่ระบุไว้ว่า บุคคลที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้จะต้องเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีมาก่อน
โดยความคิดเห็นส่วนตัวของ เฉิงหลี่ เขามองว่า หานเจิ้ง และ หูชุนหัว มีภาษีมากที่สุดในบรรดา 4 คน และคาดว่าเป็น 2 ตัวเต็งที่จะชิงตำแหน่งนายกฯ คนใหม่ของประเทศ
เฉิงหลี่ กล่าวว่า หาก หานเจิ้ง ได้เป็นนายกฯ คนใหม่ ก็จะสะท้อนถึงความต่อเนื่องของนโยบายปัจจุบัน แต่หาก หูชุนหัว ได้นั่งเก้าอี้ผู้นำ ก็อาจส่งสัญญาณถึงการสร้างความสามัคคีภายในพรรค เนื่องจากหูนั้นเป็นนักการเมืองจากกลุ่มสันนิบาตที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มขั้วตรงข้าม สีจิ้นผิง แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวของ เฉิงหลี่ แล้วเขามองว่า เราน่าจะได้เห็นความต่อเนื่องมากกว่า ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไปว่าผลลัพธ์จะออกมาดังเช่นคาดการณ์หรือไม่
แฟ้มภาพ: Lintao Zhang / Getty Images
อ้างอิง: