จีน เผยแพ็กเกจ 19 นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมมูลค่าราว 1 ล้านล้านหยวน เพื่อหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ และควบคุมผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์จากโควิด รวมถึงวิกฤตในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางปัญหาภัยแล้ง
เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม) สภาแห่งรัฐ (State Council) หรือคณะรัฐมนตรีของจีน เปิดเผยแพ็กเกจนโยบายรวมมูลค่าราว 1 ล้านล้านหยวน (หรือคิดเป็นเงินไทยราว 5.24 ล้านล้านบาท) โดยจำนวนนี้ 3 แสนล้านหยวนจะมอบให้ธนาคารนโยบายของรัฐลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มเติมจากโครงการที่ประกาศไปแล้วเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 3 แสนล้านหยวน ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นจะได้รับการจัดสรรพันธบัตรพิเศษมูลค่าอีก 5 แสนล้านหยวนจากโควตาที่ยังไม่ได้ใช้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ท่ามกลางวิกฤตด้านพลังงานที่เกิดจากภัยแล้ง แพ็กเกจนโยบายครั้งนี้ยังมุ่งไปยังบริษัทผลิตไฟฟ้าของรัฐ ที่จะได้รับอนุญาตให้ขายพันธบัตร 2 แสนล้านหยวน ขณะที่เงินอุดหนุนอีก 1 หมื่นล้านหยวนจะมอบให้กับภาคเกษตรกรรม
โดยในการประชุมที่มีนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียง เป็นประธาน สภาแห่งรัฐยังได้ให้คำมั่นว่าจะใช้ ‘เครื่องมือที่มีอยู่’ รักษาระดับนโยบายที่สมเหตุสมผล พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจจะไม่ถูกกระตุ้นมากจนเกินไป และจีนจะไม่ใช้พื้นที่ทางนโยบาย (Policy Room) ในอนาคตมากเกินไป นับเป็นการย้ำจุดยืนในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างระมัดระวังอีกครั้ง
ทั้งนี้ การประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด รวมถึง ภาวะตกต่ำของอสังหาริมทรัพย์ ได้ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอ่อนแอลง ทำให้เป้าหมาย GDP อย่างเป็นทางการของรัฐบาลที่ ‘ประมาณ 5.5%’ ดูจะไกลเกินเอื้อม
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จีนตัดสินใจมองข้ามเป้าหมายดังกล่าว เนื่องจากยึดนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID Policy) เป็นหลัก เพื่อควบคุมการติดเชื้อโควิด โดยตามความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ ในการสำรวจโดย Bloomberg คาดการณ์ว่า การเติบโตของ GDP จีนจะน้อยกว่า 4% ในปีนี้
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs Group กล่าวว่า มาตรการที่ประกาศเมื่อวันพุธ (25 สิงหาคม) ยังไม่เพียงพอที่จะเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ โดยก่อนหน้านี้ Goldman Sachs คาดการณ์ว่า GDP จีนในปีนี้จะโต 3%
โดยนักเศรษฐศาสตร์หลายคน รวมถึง Maggie Wei ระบุว่า มาตรการล่าสุดของรัฐบาลจีนอาจช่วยชดเชยการหดตัวอย่างรวดเร็วของรายได้รัฐบาลได้ และสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในระดับหนึ่ง แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม “จะยังคงซบเซา” เว้นแต่รัฐบาลจะผ่อนคลายการบังคับใช้นโยบายที่สำคัญ
โดย 19 มาตรการล่าสุดที่จีนประกาศออกมา ซึ่งเพิ่มเติมจากมาตรการที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยธนาคารนโยบายรัฐได้รับการจัดสรรเงินทุนทั้งหมดรวม 1.1 ล้านล้านหยวน สำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่เดือนมิถุนายน ขณะที่ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลยังได้ประกาศมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านหยวนในชุดนโยบาย 33 นโยบาย ซึ่งในจำนวนนี้ มีนโยบายที่มุ่งเป้าหมายไปยังธุรกิจขนาดเล็กด้วย
สภาแห่งรัฐยังให้คำมั่นที่จะดำเนินการลดต้นทุนทางการเงินต่อไป และออกมาตรการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจและบริษัทแพลตฟอร์ม
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP