ช่วงต้นปีที่ผ่านมา Shanghai Banxia Investment Management Center หนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของจีนที่สร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นที่สุดในปีนี้ ตัดสินใจขายหุ้นจีนออกไปทั้งหมด เนื่องจากมองว่าการระบาดของโควิดระลอกใหม่อาจทำให้เศรษฐกิจจีนแย่ลงอีกครั้ง และอาจจะแย่กว่าปี 2008
แต่ล่าสุดเฮดจ์ฟันด์ดังกล่าวได้กลับมาถือหุ้นจีนอีกครั้งในสัดส่วนราว 65% ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากราคาหุ้นดิ่งลงต่อเนื่องจนทำให้ Valuation ของหุ้นจีนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
Li Bei ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Shanghai Banxia กล่าวว่า “ฉันกลับมามองบวกอีกครั้ง แม้เรายังไม่ได้อยู่ในตลาดกระทิง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในตลาดหมีอีกต่อไปแล้ว หุ้นต่างๆ อาจจะผันผวนมากในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้”
กองทุนของ Li สร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นที่สุดในระดับ 258% เมื่อปี 2020 และเมื่อเดือนก่อนเธอเพิ่งจะมองว่าเศรษฐกิจอาจจะแย่กว่าปี 2008 แต่การปรับมุมมองดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า Sentiment ในจีนสามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วเพียงใด หลังจากที่ภาครัฐเริ่มมีท่าทีผ่อนคลายเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด และเริ่มออกมาตรการกระตุ้นแทนที่
มุมมองเชิงบวกของ Li เกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ แรงขายที่เริ่มหมดไป มูลค่าหุ้นที่ลดลงจนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และสัญญาณบวกจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น ไปจนถึงตัวเลขการส่งออกที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม Li ยังคงกังวลเกี่ยวกับการที่นักลงทุนต่างชาติอาจจะเทขายหุ้นจีนออกมาอีกได้ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ การอ่อนค่าของเงินหยวน และเศรษฐกิจของหลายประเทศที่อ่อนแอลง โดยหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติถืออยู่ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี CSI 300
ทั้งนี้ ผลตอบแทนของกองทุนของ Li เมื่อปีก่อนเพิ่มขึ้น 60% ส่วนไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง 7%
อ้างอิง:
- Hedge Fund Star’s Bullish Turn Points to End of China Stock Rout – Bloomberg
- China Hedge Fund Manager Bullish on Mainland Shares – Bloomberg
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP