×

สส. ประชาชนยื่นอธิบดีกรมการปกครอง ตรวจสอบขบวนการส่วยสัญชาติในเชียงใหม่ เชื่อยังมีอีกหลายพื้นที่

โดย THE STANDARD TEAM
18.09.2025
  • LOADING...
ส.ส. ประชาชน ยื่นหนังสือตรวจสอบขบวนการเรียกรับส่วยสัญชาติในเชียงใหม่

วันนี้ (18 กันยายน) ที่กรมการปกครอง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน และ สมดุลย์ อุตเจริญ สส. เชียงใหม่ พรรคประชาชน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมการปกครอง กรณีมีการเรียกรับผลประโยชน์หลักหมื่นบาทจากชาวบ้านที่ประสงค์จะทำบัตรประชาชนตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้รับหนังสือด้วยตัวเอง

 

วิโรจน์กล่าวว่า จากกรณีที่สมดุลย์ลงพื้นที่รับข้อร้องเรียนจากประชาชนในอำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากการขอสัญชาติและการทำบัตรประชาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ซึ่งมติดังกล่าวไม่ได้เป็นการให้สัญชาติแก่แรงงานต่างชาติหรือชาวต่างชาติผู้หนีภัยสงคราม แต่เป็นการปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้นสำหรับประชาชนจำนวน 483,626 คน โดยครอบคลุมถึงกลุ่มที่ได้มีการสำรวจและขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 หรือกว่า 25 ปีมาแล้ว 

 

กลุ่มประชาชนที่สำรวจเพิ่มเติมในช่วงปี พ.ศ. 2548-2554 และผู้ที่ถูกตกหล่นจากการสำรวจก่อนหน้า รวมถึงบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรไทย โดยผู้ที่จะได้รับสัญชาติต้องอยู่อาศัยต่อเนื่องในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 15 ปี และต้องมีเลขบัตรประชาชนประเภท 6 ประเภท 0 กลุ่ม 89 และกลุ่ม 00 

 

ตามระเบียบราชการ ประชาชนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมติ ครม. 29 ตุลาคม 2567 ต้องชำระค่าธรรมเนียมเพียง 160 บาทเท่านั้น แต่ประชาชนจำนวนมากในอำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ กลับถูกเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินหลักหมื่นบาท เพื่อขอสัญชาติและจัดทำบัตรประชาชน ซึ่งปัญหาในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพียงแห่งเดียว เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นกับกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นที่จังหวัดระนอง ที่ถูกขู่บังคับให้จ่ายค่าลายเซ็นเป็นเงินหลายหมื่นบาทในการขอสัญชาติและทำบัตรประชาชน ทั้งที่ผ่านการตรวจพิสูจน์หลักฐานและตรวจ DNA ยืนยันแล้วว่าเป็นคนไทยโดยชัดเจน 

 

“ผมและ สส. สมดุลย์ เชื่อว่า พฤติกรรมในการเรียกรับส่วยสัญชาติในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น แต่อาจเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ หากกลุ่มเป้าหมายจำนวน 483,626 คน มีเพียงร้อยละ 25 ที่ต้องจ่ายส่วยสัญชาติในอัตราคนละ 20,000 บาท จะเท่ากับว่าการเรียกรับผลประโยชน์ครั้งนี้อาจมีมูลค่าสูงถึง 2,400 ล้านบาท” วิโรจน์กล่าว 

 

ด้วยเหตุนี้ จึงมายื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมการปกครองในวันนี้ โดยเราจะติดตามอย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายมีเพียงคนละ 160 บาทเท่านั้น หากมีการเรียกรับผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นหลักพันหรือหลักหมื่นบาท ถือเป็นการเรียกรับสินบน และเป็นการคอร์รัปชันอย่างชัดเจน ประชาชนที่ถูกเรียกรับเงินควรเก็บหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ข้อความแชท คลิปเสียง หรือคลิปวิดีโอ แล้วส่งมายังเพจเฟซบุ๊กของ สส. สมดุลย์ โดยทันที เพื่อเร่งประสานให้อธิบดีกรมการปกครองดำเนินการและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising