เจี่ยงว่านอัน เหลนของเจียงไคเชก (เจี่ยงเจี้ยสือ) ผู้ก่อตั้งไต้หวัน ประกาศชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน นับเป็นชัยชนะที่สำคัญสำหรับพรรคก๊กมินตั๋ง (กั๋วหมินตั่ง / KMT) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ในขณะที่พรรคหมินจิ้นตั่ง (เดโมเครติกโปรเกรสซิฟ / DPP) ของไช่อิงเหวิน ประสบความพ่ายแพ้อย่างราบคาบในการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วทั้งเกาะไต้หวัน โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกมองว่าอาจเป็นตัวชี้วัดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ในอีกไม่ถึงหนึ่งปีข้างหน้า
“ทุกคน เราทำสำเร็จแล้ว” เขากล่าวสั้นๆ กับฝูงชนหลายพันคนนอกสำนักงานหาเสียงของเขาในคืนวันเสาร์ โดยชัยชนะครั้งนี้จะทำให้เจี่ยงว่านอันกลายเป็นนายกเทศมนตรีอายุน้อยที่สุดของไทเป ในวัย 43 ปี
คณะกรรมการการเลือกตั้งกลางเปิดเผยว่า พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) คว้าชัยใน 13 เมือง จาก 21 เมืองและเขต ในขณะที่พรรคหมินจิ้นตั่ง (DPP) สามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้เพียง 5 เมืองทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งน้อยที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งพรรคในปี 1986 ขณะที่ข้อมูลบนเว็บไซต์การเลือกตั้งอย่างเป็นทางการระบุด้วยว่า ผู้สมัครจากพรรค KMT ได้รับคะแนนเสียง 50% เทียบกับ DPP ที่ได้ไป 41.6% ขณะที่นับคะแนนไปแล้ว 11.39 ล้านคะแนน ณ เวลา 23.53 น. ตามเวลาไทเป
ความพ่ายแพ้อย่างหมดท่าของพรรค DPP ทำให้ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อแสดงความรับผิดชอบ โดยเธอกล่าวว่า “เมื่อผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ เราก็จำเป็นต้องย้อนกลับมามองตัวเองในหลายด้าน”
การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ถือเป็นการทดสอบที่สำคัญครั้งสุดท้ายของพรรค DPP และไช่อิงเหวิน ก่อนที่การดำรงตำแหน่งในสมัยที่สอง ซึ่งเป็นวาระสุดท้ายของเธอจะสิ้นสุดลง และชาวไต้หวันจะเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ในช่วงต้นปี 2024 ด้านพรรค KMT หรือพรรคชาตินิยม หวังว่าการได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งท้องถิ่นจะช่วยให้พรรคกลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสองสมัยติดต่อกันเมื่อปี 2016 และ 2020
ขณะเดียวกัน ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ยังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากวอชิงตันและปักกิ่ง เนื่องจากการขึ้นสู่อำนาจของ DPP เมื่อหกปีก่อนส่งผลให้จีนตัดการสื่อสารกับไต้หวัน และเพิ่มแรงกดดันทางการทูตและการทหารบนเกาะแห่งนี้ ขณะที่พรรค KMT ซึ่งสนับสนุนการรวมชาติกับจีน เคยขยายความสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์กับปักกิ่งเมื่อครั้งที่พรรคเป็นฝ่ายรัฐบาล โดยมีการผ่อนคลายการเดินทาง การค้า และการลงทุนข้ามช่องแคบไต้หวัน
จางเติ้งจือ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งในวันเสาร์นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของพรรค KMT เนื่องจากชัยชนะที่ถล่มทลายจะเป็นผลดีต่อ อีริก จู หัวหน้าพรรค KMT และโหวหยูอี้ นายกเทศมนตรีนิวไทเป ในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
อาร์เธอร์ หวัง เลขาธิการสมาคม Asia-Pacific Elite Interchange Association แสดงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า “อีริก จู จะได้รับเครดิตสำหรับชัยชนะครั้งนี้ และจะทำให้เขาเหมาะสมที่จะเป็นผู้แทนพรรคในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม นายกเทศมนตรีเมืองนิวไทเปอย่าง โหวหยูอี้ ก็เป็นที่ชื่นชอบของพรรคมานาน และได้รับการหมายตาว่าจะเป็นผู้แทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของพรรค แต่จะเป็นใครในสองคนนี้ยังบอกไม่ได้”
สำหรับเจี่ยงว่านอันนั้นเป็นเหลนของเจียงไคเชก ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน หลังจากต่อสู้และพ่ายแพ้สงครามกลางเมืองให้กับคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋อตง นอกจากนี้ เจียงไคเชกยังเป็นที่จดจำของชาวไต้หวันจำนวนมากจากเหตุการณ์ 28 กุมภาพันธ์ 1947 ซึ่งกองกำลังชาตินิยมของเจียงปราบปรามพลเรือนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล โดยไต้หวันกำหนดให้วันที่ 28 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันหยุดราชการ เพื่อรำลึกถึงประชาชนนับพันที่ถูกสังหารในเหตุการณ์ดังกล่าว
ภาพ: Louise Delmotte / Getty Images
อ้างอิง: