×

นายกฯ ชี้ ยังไม่จำเป็นต้องประกาศให้เชียงใหม่เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ รับมีโอกาสลงพื้นที่คู่ทักษิณ แจ้งข่าวดี เตรียมจัดฟอร์มูลา อี คาดไม่เกิน 15 ก.พ. 68

โดย THE STANDARD TEAM
17.03.2024
  • LOADING...

วันนี้ (17 มีนาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงไทม์ไลน์ของปัญหาฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ที่จะเข้าสู่จุดสูงสุดในต้นเดือนหน้าว่า ตนคิดว่าปลายเดือนนี้จะเป็นช่วงที่พีค แต่ว่าเราไม่ได้ย่อท้อ ก็จะทำงานต่อไป พร้อมย้ำว่า เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางให้กับประชาชนมาช่วยกันดูแลทรัพยากรของชาติร่วมกัน และเมื่อให้ไปแล้วก็ต้องมาดูกันว่าจะต้องไม่มีจุดฮอตสปอตอีก ในแง่ของส่วนที่เราได้บริหารจัดการไป 

 

ส่วนข้อเรียกร้องที่จะให้มีการเปิดไทม์ไลน์ถึงมาตรการเพื่อให้คนในพื้นที่ได้เตรียมพร้อมรับมือ เศรษฐากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเคร่งครัด และการที่เราได้ให้งบกลางลงไปในพื้นที่ต่างๆ ก็จะให้มีจุดเฝ้าระวังให้เยอะขึ้น 

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่า ทำไมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 ติดอันดับโลก แต่ไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อที่จะได้อนุมัติงบลงมาแก้ไขปัญหา เศรษฐากล่าวว่า งบเราก็มีให้อยู่แล้ว เรื่องนี้เราก็ทำอยู่แล้ว และยังไม่จำเป็นที่จะต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ โดยรัฐบาลก็ให้งบกลางมากกว่างบฉุกเฉิน 

 

ส่วนมาตรการเร่งด่วนในการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่นั้น เศรษฐากล่าวว่า เมื่อวานนี้ก็มีการแจกหน้ากากอนามัยไป 2 ล้านชิ้น แต่ก็คงเป็นเรื่องของปลายเหตุมากกว่า ส่วนการดำเนินการเรื่องฝนหลวงนั้นก็ทำตลอด ทั้งยุทโธปกรณ์ของหลายๆ ส่วน และเฮลิคอปเตอร์ของหลายหน่วยงานก็เข้ามาอยู่ที่นี่ เพื่อที่จะสูบน้ำเข้าไปดับไฟป่า ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ฝุ่นได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความคาดหวังด้วย ตนไม่ได้บอกว่าอากาศที่เชียงใหม่ดี แต่ว่าก็ยังน้อยกว่าปีที่แล้ว เลยวางพื้นที่ที่มีจุดฮอตสปอตน้อยกว่า 2 ใน 3 เลย แต่ค่าฝุ่นก็ยังสูงอยู่ดี เราก็ยังมองเห็นอยู่ ก็ต้องทำงานกันต่อไป 

 

เมื่อถามว่า พิธาเสนออยากให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดับไฟในป่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัจจุบันก็เหมือนมีคนอยู่แล้ว จริงๆ แล้วต้องพยายามบริหารเรื่องบุคลากรให้ดีด้วย

 

เมินข้อวิจารณ์มีนายกฯ หลายคน 

 

เศรษฐายังกล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดพะเยาในวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ว่า ยังไม่มีเรื่องใดเป็นพิเศษ ดูเรื่องในพื้นที่ว่าต้องการอะไร เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการไปทุกภาค ตามจังหวัดต่างๆ โดยมีความตั้งใจที่จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากนี้ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมไม่มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศเลย จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สุดสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปจังหวัดพิจิตรและจังหวัดนครราชสีมา 

 

เมื่อถามว่า จะได้เห็นภาพการลงพื้นที่คู่กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า แน่นอน ทักษิณเป็นผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อไทย และเป็นจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความนิยมสูงมาก หากทักษิณไม่มาช่วยตรงนี้ประเทศไทยก็จะไม่ได้ประโยชน์ หากถามว่ามีโอกาสหรือไม่นั้น มีโอกาสอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้นัดกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ คนไหนตนก็ยินดี 

 

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีเคยระบุว่า การลงพื้นที่ของทักษิณทำให้ประชาชนมีรอยยิ้มนั้น เศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนี้ แต่ทุกรอยยิ้มคือกำลังใจในการทำงาน เป็นสิ่งที่ตนอยากเห็นบนใบหน้าประชาชน ไม่ว่าจะเป็นใครที่ทำให้เกิดรอยยิ้มก็ตาม 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลเรื่องนายกรัฐมนตรีทับซ้อนหรือไม่ เศรษฐาส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ ไม่เคยมีประเด็นตรงนี้ และทราบดีว่าอดีตนายกฯ หลายๆ คนก็เป็นที่นิยมสูง ตนเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคไทย หรือพรรคอื่นๆ ทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศชาติ แต่การคิดนโยบายต่างๆ แตกต่างกันไป วันนี้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ตรงนี้ ก็ต้องบริหารความคาดหวังของประชาชนทุกคน อดีตนายกฯ ก็เป็นหนึ่งในประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน เชื่อว่ามีความหวังดี ส่วนที่เป็นไปได้ในเรื่องของข้อแนะนำหรือไม่ ก็ต้องไปดูเรื่องการบริหารจัดการทั้งเรื่องงบประมาณและความเหมาะสม

 

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า จะขจัดคำวิจารณ์นี้ได้อย่างไร เศรษฐาว่า ตนไม่มีความคิดที่จะขจัด จะมีเท่าใดไม่ได้ใส่ใจตรงนี้ เพราะไม่ใช่การทุจริตหรือสิ่งที่ต้องขจัดออกไป ประเทศเรามีเสรีภาพ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ภายใต้กฎหมาย เมื่อประชาชนสนใจตนก็มีหน้าที่ที่ต้องตอบ พร้อมย้ำว่า ไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้บั่นทอนกำลังใจในการทำงาน ไม่ได้รำคาญที่จะตอบ พรุ่งนี้ถามอีกก็ตอบอีก เรื่องไหนแก้ไขได้ก็แก้ไข

 

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ช่วงนี้นายกรัฐมนตรีตอบคำถามเก่งขึ้น เศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้ตอบเก่งมากขึ้น ทุกคำออกมาจากใจ มันคือความจริง ตนไม่รู้จะตอบอย่างไร ไม่ว่าจะถามอย่างไรตนก็ตอบเหมือนเดิมทุกอย่าง เรื่องการวิจารณ์ก็เป็นเรื่องธรรมดา เชิงบวกเชิงลบก็รับฟัง อะไรที่เป็นเชิงลบแล้วสามารถแก้ไขได้ตนก็แก้ไข พร้อมยืนยันว่า อำนาจการบริหารราชการแผ่นดินอยู่ที่ตน

 

“ผม เศรษฐา ทวีสิน คือนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจในการตัดสินใจเต็มที่ภายใต้รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทย”

 

เมื่อถามว่า จะเห็นภาพนายกรัฐมนตรีเล่นน้ำสงกรานต์กับทักษิณในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนไม่ได้เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ แต่จะเดินทางไปจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ และหากจะเล่นสงกรานต์คงอยู่แถวนั้น คงไม่ได้มาเชียงใหม่ 

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทักษิณมีกำหนดการเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงวันที่ 13-15 เมษายนนี้ 

 

ข่าวดี เตรียมจัดฟอร์มูลา อี คาดจัดไม่เกิน 15 ก.พ. 68 

 

นอกจากนี้ เศรษฐายังกล่าวถึงการพบและพูดคุยกับตัวแทนผู้บริหารฟอร์มูลา อี ที่โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ ว่า มีข่าวดี หลังได้พูดคุยและได้กำหนดขั้นตอนต่อไปอย่างชัดเจน ดูสถานที่ว่าจุดไหนมีความเหมาะสม ซึ่งตอนนี้สถานที่ที่มีความเป็นไปได้สูงคือสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี หรืออุทยานหลวงราชพฤกษ์ โดยทางฟอร์มูลา อี จะไปดูเรื่องทางเทคนิคว่าสถานที่ไหนจะเหมาะสมที่สุด

 

ส่วนเรื่องของเม็ดเงินที่จะตามมานั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาในส่วนนี้ คงต้องไปดูรายละเอียดทั้งหมด และหากจะมีการจัดงานก็คงประมาณต้นปี 2568 แต่คงเกินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เพราะเป็นช่วงฤดูหนาว และยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย เรื่องของฟอร์มูลา อี ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว ตนเองเชื่อว่าเป็นเรื่องของเวลา และเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นมิตรกับธรรมชาติ และเข้ากับธีมที่ว่า รัฐบาลสนับสนุนให้มีการลงทุนให้ประเทศไทยเป็นฮับของการผลิตรถ EV และเป็นการส่งเสียงที่ชัดเจนกับชาวโลกว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก คาดว่าอีกไม่เกิน 60 วันน่าจะสรุปได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และเป็นขั้นตอนเรื่องการต่อรองสัญญากัน

 

เศรษฐายังมองถึงผลที่จะตามมาชัดเจนคือ เรื่องของการท่องเที่ยว เพราะจะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของจังหวัดเชียงใหม่ จะได้เห็นเรื่องวัฒนธรรม เพราะคนที่มาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่มาดูเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะทั่วไป แต่เรายังไม่สามารถดึงนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งมาได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นการเปิดช่องทางใหม่ และหวังว่าเมื่อเขามาดูเรื่องการแข่งขันฟอร์มูลา อี แล้ว จะมาดูเรื่องวัฒนธรรมของเราต่อไปได้

 

ส่วนเรื่องการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงที่จังหวัดเชียงใหม่ เศรษฐากล่าวว่า ได้ขยายระยะเวลาเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะขยายไปทั่วประเทศหรือไม่นั้น ต้องดูเรื่องของโซนนิ่ง เรื่องความเหมาะสม และดูความต้องการของแต่ละพื้นที่ด้วย

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีประเทศฟินแลนด์ประกาศระงับการรับคำร้องขอวีซ่าแรงงานไทยไปเก็บเบอร์รีในป่า หลังมีข้อกล่าวหาว่าพัวพันกับการค้ามนุษย์ ว่า ได้รับรายงานเมื่อคืนที่ผ่านมา และสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศไปตรวจสอบดูแล้ว และถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในช่วงที่เรากำลังเจรจาเรื่องของฟรีวีซ่า ไม่อยากให้มีอะไรที่ไปทำให้เกิดความระคายเคือง จึงต้องให้กระทรวงการต่างประเทศไปรวบรวมข้อมูลก่อน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X