เมื่อวานนี้ (30 พฤศจิกายน) ที่จุดตรวจคัดกรองโควิด-19 อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจคัดกรองบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธร (สภ.) ดอยสะเก็ด โดยมีเจ้าหน้าที่จากฝ่ายต่างๆ ในพื้นที่กว่า 30 คนปฏิบัติหน้าที่ตรวจคัดกรองผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่เดินทางเข้าจังหวัดเชียงใหม่
เจริญฤทธิ์กล่าวว่า จากการที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เป็นรายที่ 42 ของจังหวัด ในทางการแพทย์ได้มีการสืบสวนสอบสวนโรคผู้ที่สัมผัสในระดับต่างๆ และได้ตัวผู้สัมผัสเกือบครบถ้วนแล้ว ในทางป้องกันให้เป็นไปตามมาตรการการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทาง ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทางจังหวัดเชียงใหม่เองได้เคยใช้มาตรการนี้ไปแล้วในช่วงที่โควิด-19 เริ่มต้นระบาด โดยตรวจผู้ที่จะเข้าจังหวัดเชียงใหม่ทุกคนในทุกเส้นทางที่เชื่อมมาจากจังหวัดอื่น ซึ่งในทุกเส้นทางสำคัญก็จะมีด่านตรวจคัดกรอง
สำหรับการให้มีจุดตรวจคัดกรองเพื่อตรวจผู้เข้าสู่เชียงใหม่ครั้งนี้มีเพียง 2 แห่งคือ ที่อำเภอดอยสะเก็ด และอำเภอแม่อาย โดยครั้งนี้ขอให้ตรวจคัดกรองผู้ที่น่าสงสัย เช่น ชาวต่างประเทศ, ผู้ที่มาจากพื้นที่อื่น ขอให้สังเกตผู้ที่แสดงพฤติกรรมผิดปกติ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ที่จะมาเยือน และนักท่องเที่ยว ได้เกิดความมั่นใจว่าจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการยกระดับการคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
“พี่น้องประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดซึ่งต้องผ่านจุดตรวจคัดกรองทั้ง 2 จุด ทั้งที่ อำเภอดอยสะเก็ดและอำเภอแม่อาย อาจจะไม่ได้รับความสะดวกบ้าง อยากให้เข้าใจในความจำเป็นที่จังหวัดเชียงใหม่ต้องดำเนินการเช่นนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อทั้งคนเชียงใหม่เองและทั้งนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในทั้งทีมทางการแพทย์และทีมศูนย์ปฏิบัติการอำเภอพื้นที่ และศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะยกระดับความเข้มในการตรวจตราให้ผู้ประกอบการต่างๆ รวมถึงพี่น้องประชาชนและผู้มาเยือนได้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโควิด-19” เจริญฤทธิ์กล่าว
เจริญฤทธิ์ยังกล่าวต่อว่า ถึงขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีประกาศใดๆ เพิ่มเติมออกมาทั้งสิ้น ยังคงใช้มาตรการควบคุมโรคซึ่งดำเนินอยู่เป็นปกติในการสืบสวนติดตามผู้สัมผัสให้ได้ครบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือในการที่ต้องป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัยเสมอเมื่อไปยังพื้นที่สาธารณะ พื้นที่ที่ต้องพบผู้คนมากๆ เข้าสถานที่ต่างๆ มีการเช็กอินผ่าน ‘ไทยชนะ’ ซึ่งเป็นมาตรการประจำที่ทุกคนคุ้นชินและปฏิบัติมาโดยตลอด ต้องตระหนักอยู่เสมอว่าโควิด-19 นั้นยังอยู่รอบตัวเราเสมอ เหล่านี้จะเป็นวัคซีนอย่างดีให้เรารอดพ้นจากโควิด-19 ได้
“ทุกอย่างในเชียงใหม่วันนี้ยังดำเนินไปตามปกติที่เคยเป็นมา มีบางอย่างที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นในสิ่งเดิมๆ ที่ทุกคนควรปฏิบัติเป็นปกติประจำอยู่แล้ว มาเชียงใหม่แล้วก็ยังไม่มีการต้องกักตัว 14 วัน มาเชียงใหม่แล้วเกรงจะมีการล็อกดาวน์ เรื่องเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น” เจริญฤทธิ์กล่าวทิ้งท้าย
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล