วานนี้ (5 มกราคม) เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, กนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ยืนยันพบพนักงานเสิร์ฟร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ เพศชาย อายุ 28 ปี ติดเชื้อเป็นรายที่ 51 ของจังหวัดเชียงใหม่
โดยผู้ติดเชื้อรายล่าสุดเป็นชาวไทใหญ่ แต่ไม่มีการเคลื่อนย้ายข้ามแดน ทำงานที่ร้านดังกล่าวมานานกว่า 4 ปี วันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำงานในร้านโซนเดียวกับที่แม่ค้าสาววัย 28 ปี ผู้ติดเชื้อรายที่ 50 นั่งอยู่ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดอับ อากาศถ่ายเทไม่สะดวก จึงทำให้ติดเชื้อได้ง่าย ในการสอบสวนโรคได้ตรวจหาเชื้อจากผู้สัมผัสเสี่ยงสูงซึ่งเป็นคนในครอบครัวและผู้ทำงานใกล้ชิดในร้าน และตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำไปแล้วกว่า 300 ราย ในช่วง 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ตีกรอบการระบาดได้มากขึ้น โดยพบว่ามีความเชื่อมโยงกันของสถานที่การระบาดในโซนผับ สถานบันเทิง ซึ่งขณะนี้นับเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวต่ออีกว่า ผู้ติดเชื้อ 2 รายที่เกิดขึ้นใหม่เป็นการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะที่ผ่านมาไม่พบการระบาดในพื้นที่ ล่าสุดจึงได้มีการยกระดับมาตรการของจังหวัดในระดับสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือกันป้องกันตนเองและปฏิบัติตนตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด
ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นรายที่ 5 ในระลอกที่สอง ไม่พบหลักฐานเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง แต่เชื่อมโยงกับสถานบริการ ผับ บาร์ ทำให้คาดว่ามีการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงต้องมีการยกระดับมาตรการต่างๆ ให้สูงขึ้น เพื่อลดจุดเสี่ยงหรือจุดอ่อนเพื่อยุติการระบาด
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ลงนามในประกาศสั่งปิดสถานบันเทิงทุกแห่งในเชียงใหม่ 14 วัน ระบุว่า คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 3/2564 เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ว่า พบผู้ติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยมีประวัติการเดินทางไปใช้บริการในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 จำนวนหลายแห่งนั้น
เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดลุกลามป็นวงกว้าง และเป็นการยกระดับมาตรการการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาตมความในมาตรา 34 และ 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 และ ข้อ 5 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564 จึงออกคำสั่งดังนี้
ให้ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลา 14 วัน
อนึ่ง การดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา 16 ของพระราชกำหนดดังกล่าว
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6-19 มกราคม 2564
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: