หลังการให้สัมภาษณ์ของนายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา (อดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5) และนายสวัสดิ์ สุรวัฒนานันท์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 กรณีการแก้ไขปัญหาบ้านพักตุลาการ ซึ่งนายชำนาญ ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า “เป็นไปได้หรือไม่ว่าอย่าพึ่งรื้อ ให้ศาลอยู่ก่อนและให้ศาลปรับระบบสภาพสิ่งแวดล้อม แล้ว 10 ปีมาดูกันว่าสามารถฟื้นฟูให้เป็นสภาพป่าได้หรือไม่ เป็นทางออกอีกทางที่คิดว่าน่าจะดีกว่ารื้อถอน บริเวณที่ดินที่ก่อสร้างมีแค่ 89 ไร่ เท่านั้น ถือว่าเล็กน้อยมาก และบริเวณบ้านพักก็เหลืออยู่แค่ 40 กว่าไร่น้อยมาก เราไม่เอาเวลาไปแก้ไขปัญหาอื่นหรือ การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่การรื้ออย่างเดียว ขอเวลาแค่ 10 ปี แล้วเรามาว่ากันว่าบริเวณนี้ยังเป็นทะเลทรายค่อยมาดูกันอีกที”
.
ต่อคำสัมภาษณ์ดังกล่าว ทำให้มีปฏิกิริยาจากภาคประชาชน ซึ่งได้นัดรวมตัวกันประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหว โดยนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ประธานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า เครือข่ายภาคประชาคมนัดชุมนุมใหญ่ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 เมษายนนี้ เพื่อเคลื่อนไหวกดดันให้ดำเนินการรื้อบ้านพักตุลาการที่ปลูกสร้างในพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ อ.จอมทอม
.
มีรายงานว่าการชุมนุมในวันที่ 29 เมษายน จะจัดขึ้นในเวลา 8.00 น. ที่ลานประตูท่าแพ โดยทางเครือข่ายได้ประกาศเชิญประชาชนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมกันแสดงพลังส่งเสียงให้ดังไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เห็นความต้องการของภาคประชาชน
.
นายบัณรส บัวคลี่ ภาคีคนฮักเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การนัดชุมนุมครั้งนี้เตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวใหญ่ หลังจากนายกรัฐมนตรีได้รับรายละเอียดผลการสรุปของคณะทำงานฝ่ายรัฐและประชาสังคม ภายในวันที่ 29 เมษายนน่าจะได้ข้อมูลเพื่อการพิจารณาตัดสินใจในราวต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็หวังว่าท่านจะตัดสินใจได้ดีด้วยมุมมองที่หลากหลาย เพราะบ้านพักตุลาการไม่ใช่เพียงงบประมาณ กฎหมาย แต่ยังมีความรู้สึกของประชาชน วัฒนธรรม ประเพณี ความรักและศรัทธาในดอยสุเทพและผืนป่าแห่งนี้
.
นายบัณรส เปิดเผยอีกว่า เครือข่ายจะมีการนัดจัดกิจกรรม ‘ฉันรักดอยสุเทพ’ ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 เวลา 17.00-21.00 น. ที่ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ สี่แยกกลางเวียง-ถนนคนเดิน ซึ่งจะมีทั้งนิทรรศการดอยสุเทพที่ฉันรัก บอกรักดอยสุเทพผ่านภาพถ่ายและเรื่องราวในแต่ละสมัย พร้อมคอนเสิร์ตจากศิลปินและนักร้องผู้รักดอยสุเทพ แต่หากมีข่าวดีออกมาก่อนเราก็จะถือเป็นการฉลองชัยที่เราได้พื้นที่ป่าดอยสุเทพคืนมา แต่หากคำตอบที่ได้ไม่ไปในทิศทางที่ถูกต้อง เราจะมีการยกระดับการเคลื่อนไหวเป็นระดมมวลชนให้มากขึ้นในลักษณะ ‘สงครามเก้าทัพ’
อ้างอิง: