วันนี้ (12 กรกฎาคม) สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีแผนการนำทีมชาติไทยออกไปจัดแข่งขันในจังหวัดต่างๆ เพื่อเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สังคม และความภาคภูมิใจ ในการจัดกิจกรรมที่แต่ละจังหวัดจัดขึ้นมา
โดยที่ผ่านมาสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดให้จังหวัดที่สนใจและมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องระดับ ‘A’ Match ในช่วงปฏิทินฟีฟ่าเดย์ สามารถแสดงความจำนงเพื่อให้เกิดการพัฒนาในด้านศักยภาพการจัดการกีฬา และมีการยกระดับสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตลอดจนการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทางฝ่ายจัดการแข่งขันของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้พิจารณาจังหวัดที่มีความพร้อมมากที่สุดสำหรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ เดือนกันยายน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะใช้สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เป็นสนามสำหรับการจัดการแข่งขัน
สำหรับฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 ซึ่งตรงกับฟีฟ่าเดย์ เดือนกันยายน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-12 กันยายน โดยมี 4 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วยอิรัก อันดับ 70, อินเดีย อันดับ 100, เลบานอน อันดับ 102 และทีมชาติไทย อันดับ 113
โดยการแข่งขันในรูปแบบน็อกเอาต์ รอบรองชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศ แต่ละชาติจะแข่งรวม 2 นัด ทุกนัดจะเป็นการแข่งขันในระดับ International ‘A’ Match นำผลการแข่งขันไปคำนวณในการจัดฟีฟ่าแรงกิ้ง
ซึ่งหลังจากนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะเผยผลการจับสลากประกบคู่ และแจ้งวัน-เวลา รวมถึงช่องทางการถ่ายทอดสดการแข่งขันต่อไป
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่เคยได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 เมื่อปี 2565 โดยทีมชาติทาจิกิสถานคว้าแชมป์ไปครอง หลังชนะการดวลจุดโทษมาเลเซีย ส่วนทีมชาติไทยจบอันดับ 3 หลังเฉือนชนะตรินิแดดและโตเบโก