×

เช็กเงื่อนไข Top 4 พรีเมียร์ลีก ‘จิ้งจอก-สิงห์-ค้อน-หงส์’ (และไก่กับทอฟฟี่) ใครมีโอกาสได้ไปมากที่สุด?

13.05.2021
  • LOADING...
พรีเมียร์ลีก

ดูเหมือนโค้งสุดท้ายฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะไม่ยอมคลายความตื่นเต้นลงง่ายๆ แม้ว่าเราจะรู้ตัวทีมที่ได้แชมป์อย่าง ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมตกชั้นครบทั้ง 3 ทีม คือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เวสต์​ บรอมวิช อัลเบียน และฟูแลม แล้วก็ตาม

 

เพราะยังเหลือพื้นที่การชิงอันดับไปสโมสรยุโรป โดยเฉพาะในการลุ้นทำอันดับไปศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่มูลค่าของการได้ไปหรือไม่ได้ไปนั้นสูงเกินกว่าที่จะยอมให้ใครมาแย่งไปได้ง่ายๆ

 

ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เลสเตอร์ ซิตี้ ทำท่าว่าจะการันตีโอกาสในการได้ไปถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรปได้เสียที หลังจากที่อกหักในเกมนัดสุดท้ายเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เมื่อบุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดสำรอง ได้ 2-1 (โดยปีศาจแดงได้การันตีไปแชมเปียนส์ลีกแน่นอนเป็นทีมที่ 2)

 

แต่การพ่ายแพ้คาบ้านแบบพลิกล็อกของเชลซีต่ออาร์เซนอล ทำให้สถานการณ์กลับมาคู่คี่อีกครั้ง ซึ่งผลกระทบจากเกมนี้สะเทือนไปถึงทีมอันดับ 8 อย่างอาร์เซนอลเลยทีเดียว

 

เรามาลองดูแต่ละทีมกันดีกว่าว่าพวกเขาจะต้องเจอกับใคร มีโอกาสแค่ไหน และมีเงื่อนไขอะไรบ้างเพื่อให้ได้ไปยุโรป 

 

ก่อนอื่นขอทบทวนเงื่อนไขพื้นฐานของสโมสรจากพรีเมียร์ลีกที่จะได้ไปรายการสโมสรยุโรปรายการต่างๆ ก่อน

 

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: ทีมอันดับที่ 1-4

 

ยูฟ่ายูโรปาลีก: ทีมอันดับที่ 5 และแชมป์เอฟเอคัพ

 

ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก (รายการใหม่): แชมป์ลีกคัพ 

 

เพียงแต่เรื่องราวมันซับซ้อนกว่านั้นนิดหน่อย… มาดูกันทีละทีมเลย

 

พรีเมียร์ลีก

 

อันดับ 3 เลสเตอร์ ซิตี้ (แข่ง 36 นัด มี​ 66 คะแนน)

 

ฟอร์มการเล่นล่าสุด: WWDLW

 

ผู้เล่นบาดเจ็บ: ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (เข่า), จอนนี อีแวนส์ (ข้อเท้า), เจมส์ จัสติน (เข่า), เวส มอร์แกน (หลัง)

 

โปรแกรมที่เหลือ: เชลซี (เยือน), ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (เหย้า)

 

ชัยชนะเหนือแมนฯ ยูไนเต็ด ของเลสเตอร์ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ทำให้พวกเขามีโอกาสสูงที่จะจบฤดูกาลด้วยการเป็นทีมท็อป 4 หลังจากที่ฤดูกาลที่แล้วทำท่ามาดีๆ ก่อนจะหลุดโค้งในช่วงปลายฤดูกาล และโดนแมนฯ ยูไนเต็ด แซงไปในนัดสุดท้ายของฤดูกาลแบบเจ็บปวด

 

สถานการณ์ตอนนี้พวกเขาต้องการแค่ 4 คะแนน จาก 2 นัดที่เหลือ ก็จะได้ไปแชมเปียนส์ลีกแน่นอน เพียงแต่โปรแกรมนั้นไม่ง่ายเลย เพราะต้องไปเยือนเชลซี คู่แข่งสายตรง และสเปอร์ส ซึ่งยังมีความหวังเล็กๆ (เล็กมากๆ) กับการติดท็อป 4 และที่เป็นไปได้มากกว่าคือ การไปยูโรปาลีก ซึ่งหากสะดุด 2 นัด ก็มีโอกาสจะฝันร้ายซ้ำสองได้

 

ไม่นับความพะวงเรื่องการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพกับเชลซีในวันเสาร์นี้ และอาการบาดเจ็บของ จอนนี อีแวนส์ เสาหลักในเกมรับที่กระทบต่อทีมมาก จิ้งจอกสยามต้องตั้งสติให้ดี ไม่ให้หลุดโค้งอีก

 

ปีที่แล้วเลสเตอร์ ซิตี้ พลาดโดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แซงในเกมสุดท้าย

 

เชลซีมีออปชันในการไปแชมเปียนส์ลีกมากกว่าทีมอื่น

 

อันดับ 4 เชลซี (แข่ง 36 นัด มี 64 คะแนน)

 

ฟอร์มการเล่นล่าสุด: DWWWL

 

ผู้เล่นบาดเจ็บ: อันเดรียส คริสเตนเซน​ (กล้ามเนื้อด้านหลังโคนขา), มาเตโอ โควาซิช (ต้นขา)

 

โปรแกรมที่เหลือ: เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า), แอสตัน วิลลา (เยือน)

 

ความจริงถ้าพวกเขาชนะอาร์เซนอลเมื่อคืนได้ ทุกอย่างก็แทบจะไม่มีปัญหา แต่ถึงจะแพ้ทีมของ โธมัส ทูเคิล แต่ยังมีโอกาสเปิดกว้างมากกว่าทีมอื่น เพราะพวกเขามีออปชันเพิ่มเติมในการเข้าชิงแชมเปียนส์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

เอาออปชันแรกแบบพื้นฐานก่อน เชลซีจำเป็นต้องชนะ 2 นัดที่เหลือ เพื่อการันตีโอกาสในการติดท็อป 4 แบบ 100% (เพราะลิเวอร์พูลมีโอกาสทำแต้มสูงสุดที่ 69 คะแนน ถ้าชนะรวด 4 นัด) ซึ่งประเมินจากโปรแกรมแล้วก็ไม่ง่ายทั้งสองเกม เลสเตอร์คือเกมตัดแต้มกันโดยตรง ส่วนวิลลาพวกเขาได้ แจ็ก กรีลิช กลับมาแล้ว

 

แต่หากชนะ 1 เสมอ 1 หรือชนะ 1 แพ้ 1 ก็จะต้องมาดูผลงานของคู่แข่งประกอบต่อไป

 

ส่วนออปชันที่ 2 คือการคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกให้ได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาจะได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมแข่งอีกทันทีโดยไม่ต้องสนใจอันดับ แต่มันจะเกี่ยวพันกับทีมอื่นเป็นโดมิโน ดังนี้

 

  • หากเชลซีคว้าถ้วยแชมเปียนส์​ลีกได้ แต่จบในอันดับ 4 ก็จะมีแค่ 4 ทีมที่ได้ไปเหมือนเดิม
  • หากเชลซีคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกได้ แต่จบในอันดับ 5 หรือต่ำกว่านั้น ก็จะมีทีมจากอังกฤษร่วมแข่ง 5 ทีมด้วยกัน

 

ส่วนโอกาสที่เชลซีจะคว้าแชมป์ยุโรปได้ แต่จะจบอันดับ 5 หรือ 6 จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ

 

  • แพ้รวด 2 นัดที่เหลือ (เชลซีจะมี 64 แต้ม) โดยที่เวสต์แฮม (*แต้มสูงสุดที่จะทำได้ 67) และลิเวอร์พูล (*แต้มสูงสุดที่จะทำได้ 69) ชนะรวดทุกเกมที่เหลือ
  • แพ้ 1 เสมอ 1 (เชลซีจะมี 65 แต้ม) โดยที่เวสต์แฮมและลิเวอร์พูลชนะรวดทุกเกมที่เหลือ
  • พวกเขาชนะ 1 เสมอ 1 (เชลซีจะมี 67 แต้ม) โดยที่เวสต์แฮมและลิเวอร์พูลชนะรวดทุกเกมที่เหลือ

 

แบบนี้ทีมอันดับ 1-4 และพวกเขา จะได้ไปแชมเปียนส์ลีกรวมเป็น 5 ทีม ส่วนอันดับไปยูโรปาลีกและยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกจะไล่เรียงตามไป

 

โอกาสของขุนค้อนยังพอมี แต่ต้องพึ่งลมหายใจคนอื่น

 

อันดับ 5 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (แข่ง 35 นัด มี 58 คะแนน)

 

ฟอร์มการเล่นล่าสุด: WLLWL

 

ผู้เล่นบาดเจ็บ: อาร์เธอร์ มาซูอากู (เข่า), มาร์ก โนเบิล (น่อง), อังเจโล อ็อกบอนนา (ต้นขา), ดีแคลน ไรซ์ (เข่า)

 

โปรแกรมที่เหลือ: ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน (เยือน), เวสต์บรอมวิช อัลเบียน (เยือน), เซาแธมป์ตัน (เหย้า)

 

เป็นอีกหนึ่งทีมจอมเซอร์ไพรส์ตัวจริงของฤดูกาล และแม้ว่าฟอร์มในช่วงหลังจะเริ่มแผ่ว (ชนะ 2 แพ้ 3) และเกมล่าสุดซึ่งสำคัญมาก กลับพ่ายต่อเอฟเวอร์ตันคาบ้านไปอีก แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังคงมีโอกาสลุ้นไปแชมเปียนส์ลีกอยู่

 

สิ่งที่เวสต์แฮมได้เปรียบทีมอื่นคือ โปรแกรม 3 นัดที่เหลือของพวกเขาค่อนข้างเบากว่า เป็นการเจอทีมกลุ่มโซนท้ายตารางอย่างไบรท์ตัน, เวสต์บรอม และเซาแธมป์ตัน ซึ่งสำหรับทีมเหล่านี้ผลการแข่งไม่มีความสลักสำคัญอะไรแล้ว 

 

ที่สำคัญคือ ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์หัวใจสำคัญของทีม ก็กำลังจะกลับมาเช่นกัน ซึ่งหากเก็บชัยชนะได้หมดจะมี 67 คะแนน แต่ต้องลุ้นผลงานของทีมอื่นๆ ทั้งเลสเตอร์ (ชนะเชลซีให้ได้), เชลซี (ต้องแพ้รวด 2 นัดอย่างเดียว)​ และลิเวอร์พูล (ต้องไม่ชนะรวด) 

 

เรียกได้ว่าเงื่อนไขแอบยากนิดหนึ่ง

 

ลิเวอร์พูลกลับมามีความหวังอีกครั้ง โดยที่โชคชะตาอยู่ในมือด้วยเงื่อนไขที่ดีที่สุดแต่ยากที่สุดคือ ‘ชนะรวด’ เริ่มจากเกมแดงเดือดคืนนี้!

 

อันดับ 6 ลิเวอร์พูล (แข่ง 34 นัด มี 57 คะแนน)

 

ฟอร์มการเล่นล่าสุด: WWDDW 

 

ผู้เล่นบาดเจ็บ: เบน เดวิส (กล้ามเนื้อ), เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (เข่า), โจ โกเมซ (เข่า), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (สะโพก), โอซาน คาบัค (กล้ามเนื้อ), ควีมิน เคลเลเฮอร์ (ช่องท้อง), นาบี เกตา (เจ็บเล็กน้อย), โจเอล มาทิป (ข้อเท้า), เจมส์ มิลเนอร์ (เจ็บเล็กน้อย), ดิวอค โอริกิ (กล้ามเนื้อ)

 

โปรแกรมที่เหลือ: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน), เวสต์บรอมวิช อัลเบียน (เยือน), เบิร์นลีย์ (เยือน), คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

 

แชมป์เก่านึกว่าหมดหวังไปแล้ว หลังจากที่ไปพลาดโดนลีดส์ ยูไนเต็ด และนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ตีเสมอท้ายเกม 2 นัด และเลสเตอร์ดันโชคดีเจอแมนฯ ยูไนเต็ด ทีมสำรองยกชุด จึงชนะได้ แต่จู่ๆ ฟ้าก็ประทานโอกาสให้ใหม่ เมื่อเชลซีพ่ายต่ออาร์เซนอลคาบ้าน

 

โอกาสไปแชมเปียนส์ลีกกลับมาอยู่ในมือพวกเขาเองอีกครั้ง โดยที่หากชนะรวด 4 นัดที่เหลือของฤดูกาล ก็จะมี 69 คะแนน โอกาสได้กลับไปค่อนข้างสูง จะมีเพียงกรณีที่อาจจะต้องวัดประตูได้เสียกับทีมอื่นน้อยมาก เช่น หากเลสเตอร์มี 69 คะแนนเท่ากัน (ชนะ 1 แพ้ 1 ใน 2 นัดสุดท้าย) โดยที่ประตูได้เสียลิเวอร์พูลเป็นรองอยู่ 3 ประตูด้วยกัน แต่ยังมีเกมในมืออีกถึง 4 นัดให้ยิงไล่ตาม

 

หรือหากชนะ 3 เสมอ 1 ก็ยังพอมีลุ้น แต่ต้องยืมลมหายใจคนอื่น

 

แต่ถ้าแพ้นัดหนึ่งก็แทบจะลืมไปได้เลย ซึ่งเกมที่ยากที่สุดก็คือเกมแดงเดือดในคืนนี้นั่นเอง

 

แฮร์รี เคน และ ซนฮึงมิน นอกจากต้องพาทีมชนะรวดแล้ว ต้องพึ่งดวงขั้นสุดด้วย

 

อันดับ 7 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (แข่ง 35 นัด มี 56 คะแนน)

 

ฟอร์มการเล่นล่าสุด: LDWWL

 

ผู้เล่นบาดเจ็บ: เบน เดวิส (น่อง)

 

โปรแกรมที่เหลือ: วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (เหย้า), เวสต์บรอมวิช อัลเบียน (เหย้า), เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

 

สเปอร์สมีความหวังจะไปแชมเปียนส์ลีก? ไม่ได้เมา มีจริงๆ แต่ต้องพึ่งมากกว่าวิทยาศาสตร์นิดหน่อย เพราะเงื่อนไขแรกคือต้องเก็บชัยชนะรวดทั้ง 3 นัดที่เหลือ เพื่อให้มี 65 คะแนน

และจากนั้นต้องแช่งให้เชลซีแพ้รวดทั้งหมด โดยที่เวสต์แฮมและลิเวอร์พูลต้องสะดุดด้วยเช่นกัน

 

เอฟเวอร์ตันอยู่อันดับที่ 9 แต่ก็ยังมีความหวังแบบเลือนราง ขณะที่ความเป็นไปได้มากกว่าอยู่ที่ยูโรปาลีก

 

อันดับ 9 เอฟเวอร์ตัน (แข่ง 34 นัด มี 55 คะแนน)

 

ฟอร์มการเล่นล่าสุด: DDWLW

 

ผู้เล่นบาดเจ็บ: ฌอง-ฟิลิปป์ บามิน (เข่า), ฮาเมส โรดริเกซ (น่อง)

 

โปรแกรมที่เหลือ: แอสตัน วิลลา (เยือน), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เหย้า), วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (เหย้า), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

 

เดี๋ยวนะ ทำไมทีมอันดับ 9 อย่างเอฟเวอร์ตันยังมีลุ้นด้วย? นี่ก็ไม่ได้เมา มีจริงๆ (ส่วนอาร์เซนอลไม่มีลุ้นนะ) เพราะตอนนี้พวกเขามี 55 คะแนน และยังเหลือเกมในมืออีก 4 นัด หากเก็บชัยชนะครบทุกนัด ก็จะมีถึง 67 คะแนน ซึ่งในทางทฤษฎีนั้นโอกาสมากกว่าสเปอร์สเสียด้วยซ้ำไป

 

3 นัดต่อไปไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงคือ แอสตัน วิลลา, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และวูล์ฟส์ แต่ปัญหาคือในเกมสุดท้ายพวกเขาต้องเจอกับแชมป์อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และยังต้องลุ้นให้เชลซีแพ้อีก 2 นัดเท่านั้น

 

เป็นอีกทีมที่น่าจะต้องลุ้นไปยูโรปาลีก หรือรายการใหม่ ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก

 

ทั้งหมดคือโอกาสในการลุ้นชิง​ ‘ท็อป 4’ ที่เข้มข้นแบบงงๆ ในฤดูกาลนี้ พร้อมกับเงื่อนไขของแต่ละทีมที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งง่ายและยาก ไปจนถึงต้องพึ่งโชคพึ่งดวงกัน

 

ส่วนบทสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร จะต้องลุ้นกันเหงื่อแตกจนถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาล จะตัดสินกันถึงประตูได้เสีย หรือตัดสินยันประตูได้และประตูเสียหรือเปล่านั้น คงต้องคอยติดตามกัน

 

เริ่มจากคืนนี้ก่อนเลย กับศึก ‘แดงเดือด’ ที่ไม่รู้ว่าแฟนปีศาจแดงจะประท้วงจนแข่งไม่ได้อีกไหม! 

 

ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร

อ้างอิง:

FYI
  • สำหรับโควตาที่จะได้ไปฟุตบอลยูโรปาลีกของอังกฤษคือทีมอันดับที่ 5 และแชมป์เอฟเอคัพ ซึ่งกรณีนี้เชลซีกับเลสเตอร์จะชิงกันเอง โดยที่หากจบในท็อป 4 ทั้งคู่ โควตาจะเป็นของทีมอันดับที่ 6 ที่ได้ส้มหล่นแทน
  • อีกหนึ่งโควตาคือยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก รายการใหม่ที่เป็นลำดับล่างสุด เดิมจะเป็นสิทธิ์ของแชมป์ลีกคัพ แต่เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์ ทำให้สิทธิ์จะตกอยู่กับทีมอันดับที่ 6 แต่มีโอกาสที่จะไหลถึงอันดับที่ 7 ขึ้นอยู่กับเชลซีและเลสเตอร์ในนัดชิงเอฟเอคัพ
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising