พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยก่อนเข้าร่วมการประชุมบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวอดีตเจ้าหน้าที่จากหน่วยซีล ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือโค้ชและเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย โดยได้รับรายงานว่าผู้เสียชีวิตอาสามาช่วยในการปฏิบัติการครั้งนี้ แต่เป็นลมใต้น้ำระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งร่างกายอาจจะไม่พร้อม โดยจะตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตป่วยมีโรคอะไรหรือไม่
ขณะเดียวกัน พล.อ. ประวิตร มั่นใจว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ ซึ่งทางกองทัพได้ให้กำลังใจโดยตลอด และย้ำว่ามาตรการการช่วยเหลือที่ถ้ำหลวงเป็นไปอย่างรัดกุม และการเสียชีวิตเป็นบุคคลไม่ได้เป็นกลุ่ม
พล.อ. ประวิตร ยังย้ำถึงการเตรียมการช่วยเหลือโค้ชและเยาวชนที่ถ้ำหลวงอย่างเต็มที่ ซึ่งทางต่างประเทศก็ส่งเครื่องมือเข้ามาสนับสนุน การดำเนินการทุกอย่างเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินตามขั้นตอน โดยเร่งสูบน้ำออกและพยายามหาปล่องทางออกด้านบนภูเขา และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่เหนื่อยล้า เพราะมีการสับเปลี่ยนทีมปฏิบัติงานอยู่ตลอด
ส่วนกรณีอุบัติเหตุเครื่องบินของกองทัพบกตกที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างบินลาดตระเวนในแนวชายแดน พล.อ. ประวิตร ระบุว่า สาเหตุเกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้องเสียการทรงตัว โดยได้สั่งการให้ตรวจสอบสมรรถภาพของเครื่องบินในรุ่นเดียวกันทั้งหมด ซึ่งใช้มานานแล้ว 27 ปี และได้กล่าวแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต
รองนายกรัฐมนตรียังระบุถึงเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ตว่า ก่อนเกิดเหตุสภาพอากาศยังไม่มีลม เจ้าของเรือจึงนำเรือนักท่องเที่ยวออกทะเล และเจอลมกระโชกแรง แต่ทั้งนี้พยากรณ์อากาศได้แจ้งเตือนแล้วว่าช่วงวันที่ 4-6 กรกฎาคม ทะเลมีลมแรง โดยชี้ว่าเจ้าของเรือต้องมีความผิด ซึ่งสั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้รัฐบาลไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกงสุลทุกประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งล่าสุดทางกองทัพก็ได้ส่งเรือออกไปค้นหาช่วยเหลือนับ 10 ลำ รวมถึงเครื่องบินค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีนักท่องเที่ยวประเทศใดบ้าง