เมื่อวันที่ 17 ก.ค. เวลา 09.09 น. ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ ศาลพ่อปู่สุชินพรหมมา สักการะพระพุทธรูปในห้องทำงาน และลงนามในแฟ้มเอกสาร เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ภายหลังที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม และเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยมี จักษ์ พันธ์ชูเพชร กรรมการบริหารรวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ว่าที่ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน และ พล.ท. นันทเดช เมฆสวรรค์ กรรมการบริหารพรรค รปช. ว่าที่เลขานุการ รมว.แรงงาน และ อนุสรี ทับสุวรรณ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรค รปช. มาร่วมสักการะด้วย
ขณะที่ สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ ณ บริเวณลานพระพุทธสุทธิธรรมบพิตร ด้านล่างอาคารกระทรวงแรงงาน และบริเวณห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน
รมว.แรงงาน ได้โอวาทแก่ข้าราชการประจำกระทรวงว่า ภารกิจด้านแรงงานถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในทุนมนุษย์ ที่ต้องสอดรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการผลิต รวมถึงการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานด้านแรงงานให้สอดคล้องกับบริบทความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างประเทศ และเรื่องของการประกันสังคม ตนเชื่อมั่นว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ รวมถึงมีความเสียสละ และมุ่งผลสัมฤทธิ์ที่จะให้แรงงานและประชาชนคนไทยทุกคนมีงานทำ มีศักยภาพสูง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ภารกิจแรกที่จะดำเนินการจะเป็นการสานต่องานของ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต รมว.แรงงาน คนก่อน เนื่องจากตนเองไม่ได้คาดหวังว่าจะได้มาทำงานที่กระทรวงแรงงาน จึงต้องขอเวลาศึกษางานก่อน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคืออยากให้มีการทำงานโดยการตั้งเป้าหมายและกำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างชัดเจน เช่น ในอีก 30 ปีข้างหน้าต้องการที่จะเห็นอะไร และจะทำอย่างไรให้ไปถึงเป้าหมายนั้น และสิ่งสำคัญสำหรับปัญหาแรงงานในประเทศไทยคือ การต้องเปลี่ยนแปลงแรงงานจากระดับกลางให้เป็นแรงงานทักษะของประเทศ หรือที่ต่างชาติเรียกว่า Work Force Transformation โดยจะต้องมีนักวิชาการ (Technical) มาช่วยกันทำงานตรงนี้ด้วย
ส่วนประเด็นการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทนั้น ม.ร.ว.จัตุมงคล มองว่า 400 บาทถือว่าเป็นจำนวนไม่มาก อยากให้ผู้ใช้แรงงานได้รับค่าแรงที่เหมาะสม แต่จะขึ้นมากหรือน้อยนั้น ต้องดูผลกระทบในภาพรวม ทั้งนายจ้าง ภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจในระดับมหภาคว่าเป็นอย่างไร เพราะท้ายที่สุดแล้วถ้ามีผลกระทบมาก สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งไปถึงตัวแรงงาน ลูกจ้าง ถ้านายจ้างแบกรับภาระไม่ไหว อาจจะมีการเลิกจ้าง ฉะนั้นแล้วเรื่องนี้จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ ตามขั้นตอนของบอร์ดค่าจ้างไตรภาคีที่ตัวแทนฝั่งลูกจ้าง นายจ้าง และตัวแทนของภาครัฐร่วมกันพิจารณา
“การพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำอาจจะไม่ทันกับการแถลงนโยบายของรัฐบาล ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม แต่ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ยังอยู่ในนโยบายของรัฐบาลที่ต้องพิจารณา แต่เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่วนการดำเนินการได้นั้นอาจทำได้หลายแนวทาง ทั้งการทยอยปรับขึ้น หรือการปรับขึ้นเป็นบางพื้นที่”
สำหรับ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2486 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนที่ 15 สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย Harrow School England Trinity College Cambridge U. (Mechanical Sciences and Economics Tripos) Kennedy School, Harvard U. (Public Finance and Economics Development) ได้รับปริญญารัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 31
เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ได้แก่ เศรษฐกรโท สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เศรษฐกรเอก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ผู้อำนวยการกองนโยบายภาษีอากร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รองอธิบดีกรมสรรพากร รองปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมบัญชีกลาง อธิบดีกรมสรรพสามิต อธิบดีกรมสรรพากร ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า