ช้าก่อนนักลงทุน! แม้ ChatGPT จะมีประโยชน์ แต่อาจไม่ดีพอเป็นตัวช่วยลงทุน

ผู้คนในแวดวงการเงินการลงทุน โดยเฉพาะนักวิเคราะห์ ผู้แนะนำการลงทุน หรือแม้แต่ผู้จัดการกองทุนอาจกังวลว่าตำแหน่งของตัวเองอาจถูกแทนที่ด้วย AI โดยเฉพาะหลังเกิดกระแสของ ChatGPT

อย่างไรก็ตาม ธนาคารหลายแห่งของสหรัฐฯ อย่าง JPMorgan Chase & Co., Bank of America Corp. และ Citigroup Inc. ต่างประกาศห้ามหรือจำกัดการใช้ AI เพื่อช่วยจัดทำข้อมูล เนื่องจากข้อจำกัดและข้อบกพร่องในหลายด้าน รวมถึงบริษัทอย่าง Deutsche Bank AG และ Wells Fargo & Co. ที่ตัดสินใจไปในทิศทางเดียวกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ตัวอย่างจากกรณีของพนักงานขายของธนาคารสหรัฐฯ แห่งหนึ่ง ซึ่งใช้ ChatGPT เพื่อดึงข้อมูลภาพรวมของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วกว่าการค้นหาเองผ่านอินเทอร์เน็ต แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถจะนำไปใช้จัดทำรายงานอย่างเป็นทางการได้ และจำเป็นจะต้องตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง

ขณะที่นักเทรดน้ำมันทดลองใช้ ChatGPT ในการเขียนรายงานเกี่ยวกับแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเขียนออกมาได้ดี แต่ข้อมูลหลายส่วนเป็นข้อมูลที่เก่าเกินไปแล้วและจำเป็นจะต้องแก้ไข

ส่วนเทรดเดอร์หุ้นในเมืองไทเป ทดลองใช้ ChatGPT เพื่อรวบรวมข้อมูลกำไรของบริษัทในสหรัฐฯ เพื่อประหยัดเวลาในการที่เขาจะดึงข้อมูลแต่ละส่วนมาเอง แต่สุดท้ายแล้วเขายังคงตัดสินใจลงทุนจากข้อมูลที่เขาจัดทำขึ้นมาเอง

ด้านเทรดเดอร์ที่เน้นลงทุนในบอนด์ในจีนใช้ AI ช่วยเขียนรายงานการวิเคราะห์นโยบาย ต้องกลับมาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง

Oded Netzer ศาสตราจารย์ของ Columbia Business School กล่าวว่า “มันอาจช่วยประหยัดเวลา แต่เราไม่รู้ว่ามันถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเป็นจุดด้อยที่สุดของมัน การใช้ AI อาจใช้เป็นเหมือนเพื่อนร่วมงานอัจฉริยะ โดยมอบหมายให้ช่วยพัฒนางานที่เราอยู่ให้ดียิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม Larry Tabb นักกลยุทธ์ของ Bloomberg Intelligence ยังคงเชื่อว่า “เทคโนโลยีจะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น และวันหนึ่งมันจะคิดไปได้ไกลกว่าเรา”

แต่มุมหนึ่งที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องของกฎเกณฑ์ควบคุม “เมื่อ ก.ล.ต. มาถามคุณว่าทำไมคุณถึงทำธุรกรรมนั้นๆ คุณต้องมีคำตอบที่ดีกว่าการบอกแค่ว่าหุ่นยนต์บอกให้ทำ คุณอาจจะรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและวิเคราะห์ด้วย AI ก่อนจะสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำ”

สำหรับการเทรดหุ้นในเบื้องต้น จะเห็นว่าการนำ AI เข้ามาแทนที่คนได้เกิดขึ้นบ้างแล้ว แต่ในอีกหลายส่วน ปัญหาหนึ่งสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ต้องเผชิญคือ ChatGPT ติดปัญหาในเรื่องของคณิตศาสตร์

จากการทดลองของศาสตราจารย์ใน Arizona State University พบว่า ระบบทำคะแนนได้เพียง 60% จากการให้ทดลองทำข้อสอบคณิตศาสตร์จำนวน 1,000 ข้อ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับเรื่องของผลประกอบการของบริษัทที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาของแชตบอตโดย Bing Chat ซึ่งเป็นญาติกับ ChatGPT ให้ข้อมูลกำไรของบริษัทต่างๆ ผิดพลาด จากการทดลองเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

จากการสำรวจความเห็นของนักลงทุนและเทรดเดอร์ในสหรัฐฯ โดย JPMorgan หลายร้อยราย พบว่า มากกว่าครึ่งเชื่อว่า AI และ Machine Learning จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงินในอนาคตอันใกล้

แต่สำหรับ AI ประเภท ChatGPT ผู้บริหารระดับสูงด้านการเทรด 3 รายในวอลล์สตรีทให้ความเห็นว่า จะไม่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ แม้แต่ในส่วนอื่นของธุรกิจ

อ้างอิง: