วันนี้ (30 ธันวาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนข้าวสาร เขตพระนคร เมื่อเวลา 21.21 น. ของคืนวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา
ชัชชาติกล่าวว่า โรงแรมที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นโรงแรมที่มีพื้นที่ประมาณ 1,515 ตารางเมตร มีการยื่นแบบขออนุญาต แต่ต้องไปพิจารณาอีกครั้งว่าแบบถูกต้องหรือไม่ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้น 5 เจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเหตุเมื่อเวลา 21.21 น. ใช้เวลา 5 นาทีถึงที่เกิดเหตุ พบควันหนาแน่นมาก และเนื่องจากมีควันจำนวนมาก ทำให้คนหนีขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้า
โดยมีผู้พักอาศัยทั้งหมด 75 คน ขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้า 34 คน เจ้าหน้าที่ใช้รถกระเช้าจำนวน 3 คัน เข้าช่วยเหลือทยอยนำผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าลงมาได้ทั้งหมด เหตุเพลิงไหม้นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 คน ส่วนนักท่องเที่ยวที่เหลือ กทม. นำรถมารับและส่งไปพักยังโรงแรมอื่นย่านประตูน้ำ พยายามดูแลให้ดีที่สุด และแจ้งสถานทูตที่เกี่ยวข้องให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชัชชาติกล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบโรงแรมมีบันไดหนีไฟ แต่ต้องไปตรวจสอบว่ามีการทำถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ มีระบบเตือนภัย แต่ไม่แน่ใจว่าตอนที่เกิดเหตุมีการเตือนภัยที่ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร ต้องเข้าไปตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานอีกครั้งหนึ่ง เรื่องทางหนีไฟเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต้องมีการตรวจสอบว่าคนสามารถหนีไฟได้ มีป้ายบอกชัดเจน มีระบบแจ้งเตือนภัย มีอุปกรณ์ดับเพลิง ย้ำเตือนให้ทุกสำนักงานเขตดูแลและออกตรวจเรื่องนี้ซ้ำ ทั้งในสถานบันเทิง ตลอดจนโรงแรมต่างๆ
ส่วนการควบคุมวัสดุในอาคาร ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายใหม่ออกมาเมื่อปี 2566 แต่ควบคุมเฉพาะอาคารก่อสร้างขนาดใหญ่ ยังไม่รวมโรงแรมที่มีขนาดน้อยกว่า 80 ห้อง ในระยะยาวต้องถอดบทเรียนเหล่านี้ โดยเฉพาะการควบคุมวัสดุที่มีควันพิษ
สำหรับการเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคาร หลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาดำเนินการเรียบร้อยแล้ว สำนักการโยธา และผู้เชี่ยวชาญสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย จะเข้าประเมินความมั่นคงและความปลอดภัยต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง โดยย้ำว่าจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด เบื้องต้นอาคารไม่ทรุดตัว ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่แน่ชัด
ชัชชาติกล่าวถึงการสร้างความเชื่อมั่นที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ต้องนำจุดอ่อนไปตรวจสอบเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องทางหนีไฟ ระบบแจ้งเตือนไฟไหม้ อีกเรื่องคือต้องดูแลผู้ประสบภัยให้ดีที่สุด แม้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ อีกปัญหาหนึ่งคือนักท่องเที่ยวอาจมีอาการเมา ทำให้การหนีไฟทำได้ยากขึ้น เรื่องสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือสถานบันเทิง จึงเป็นเรื่องที่ต้องไปเข้มงวดกวดขัน โดยสั่งการในเรื่องนี้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว โรงแรมยิ่งเล็กยิ่งอาจอันตราย เพราะกฎหมายเกี่ยวกับเพลิงไหม้ไปเน้นที่อาคารใหญ่เกิน 80 ห้อง ดังนั้นบางเรื่องอาจไม่ได้ครอบคลุม จึงต้องเน้นตรวจสอบโรงแรมขนาดเล็กด้วย
“สำหรับประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ฝากด้วยว่าเวลาเราจะไปเที่ยวที่ไหน ขั้นแรกต้องสำรวจเส้นทางหนีไฟให้ดี สำคัญอีกเรื่องคือการเผชิญเหตุ หากพบเหตุไฟไหม้ ก่อนที่จะไปดับเพลิงควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง โทร. 199 เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีเวลามาถึงที่เกิดเหตุเร็วขึ้น เพราะหากแจ้งช้าไฟลามเยอะ อาจไม่ทัน ผู้ประกอบการเองต้องดูว่าอย่าให้มีสิ่งของกีดขวางเส้นทางหนีไฟ และต้องซักซ้อมการเผชิญเหตุไฟไหม้ให้แก่เจ้าหน้าที่ให้ดีด้วย” ชัชชาติกล่าว
