วันนี้ (4 พฤศจิกายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝนตกหนักและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ กทม. โดยระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำท่วมขัง
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ อธิบายว่า การแก้ปัญหาคือต้องพร่องน้ำในคลองเพื่อรองรับน้ำ แต่เมื่อฝนตกลงมาซ้ำและหนักมาก ทำให้ระดับน้ำในคลองสูงและไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน
- คลองเปรมประชากร: ถือเป็นคลองที่มีระดับน้ำวิกฤต เนื่องจากมีปัญหาการ รุกล้ำค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะทางตอนเหนือซึ่งอยู่ใกล้จังหวัดปทุมธานี ทำให้ไม่สามารถขุดลอกคลองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม กทม. มีโครงการ บ้านมั่นคง เพื่อช่วยให้ผู้รุกล้ำได้มาอยู่ในพื้นที่ที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำไปสู่การขุดลอกคลองและสร้างเขื่อนต่อไป
- คลองประเวศบุรีรมย์: มีปัญหาเรื่อง ความคดเคี้ยว ซึ่งต้องใช้ อุโมงค์ เข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาระยะยาว
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับว่ายังมีจุดอ่อนน้ำท่วมที่มีปัญหา เช่น อ่อนนุชซอย 59 ที่ต้องมีการวางแผนระยะยาวในการแก้ไข แม้ว่าหลายจุดได้ถูกแก้ไขไปแล้ว แต่บางจุดยังคงต้องรอโครงการขนาดใหญ่เข้ามาช่วยในอนาคต
ด้าน เอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (เวลา07.00 น. 3 พฤศจิกายน – เวลา 07.00 น. 4 ฤศจิกายน) กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยปริมาณฝนรวมสูงสุดอยู่ที่สถานีคลองระหาญ เขตบางขุนเทียน 74.0 มม.
โฆษก กทม. ยืนยันว่า สำนักการระบายน้ำได้รายงานว่า จุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลักทั้ง 13 จุด ได้แห้งเป็นปกติแล้ว ณ เวลา 22.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ทำให้ถนนสายหลักใน กทม. สามารถใช้สัญจรได้อย่างปกติในเช้าวันนี้
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำเร่งบริหารจัดการน้ำในภาพรวม โดยเปิดประตูระบายน้ำและเดินเครื่องสูบน้ำทุกสถานีเต็มกำลัง รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำหลัก อุโมงค์ระบายน้ำ และจุดเฝ้าระวังพิเศษ
ทั้งนี้ คาดว่า สัปดาห์หน้าสถานการณ์ฝนจะคลี่คลายลง เนื่องจากความกดอากาศสูงจะดันร่องมรสุมลงไปทางภาคใต้ ทำให้ปริมาณฝนในกรุงเทพมหานครลดลง
