ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ช่วง 5 เดือนแรกปี 2563 (มกราคม-พฤษภาคม) มียอดเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 2.15 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6 พันล้านบาทจากสิ้นปี 2562 โดยจากต้นปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบตามมาตรการของภาครัฐ ‘เราไม่ทิ้งกัน’ ได้แก่
– สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท และสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำฯ วงเงินกู้สูงสุด 50,000 บาท โดยรวมมียอดผู้ยื่นกู้ 3 ล้านราย ปัจจุบันอนุมัติไปแล้วเกือบ 600,000 ราย
– การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลนแก่สถาบันการเงิน น็อนแบงก์ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของธนาคารออมสิน วงเงิน 150,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้ยื่นกู้แล้ว 13,093 ราย วงเงินรวม 161,628 ล้านบาท (อนุมัติแล้ว 108,960 ล้านบาท คาดว่าภายในเดือนมิถุนายน 2563 จะสามารถอนุมัติได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ทางธนาคารมีมาตรการการดูแลลูกค้าของธนาคาร เช่น การพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลา 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2563 มีผู้ที่ได้รับประโยชน์ ทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท รวม 3.10 ล้านราย วงเงินรวม 1.14 ล้านล้านบาท รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเยียวยาในโครงการ ‘เราไม่ทิ้งกัน’
อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบที่เกิดขึ้นคาดว่าปี 2563 กำไรสุทธิของธนาคารจะอยู่ที่ระดับ 10,000 ล้านบาท ลดลงจากหลายปีที่ผ่านมาที่อยู่ระดับ 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับระบบธนาคาร โดยกำไรปีนี้มีแนวโน้มลดลง แม้ว่า 5 เดือนแรกปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 5,039 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 19,552 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ จำนวน 1,892 ล้านบาท และรายได้อื่นอีก 2,313 ล้านบาท
“จากสถานการณ์ทั้งหมดนี้ ธนาคารออมสินทำตามพันธกิจของธนาคาร ที่จะช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ และมองว่าวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้แม้จะหนักหนา แต่มองว่าประเทศไทยจะฟื้นตัวเร็วกว่าปี 2540 ทั้งการท่องเที่ยวที่น่าจะฟื้นตัว ขณะที่การส่งออกอาจต้องรอประเทศเพื่อนบ้านฟื้นตัว“
ส่วนช่วง 5 ปีที่ผ่านมามุ่งปรับภาพลักษณ์ให้เข้าถึงลูกค้าหลายกลุ่ม เห็นได้จากกลุ่มลูกค้าบุคคลขยายตัวขึ้น โดยปี 2563 มีเงินฝากอยู่ที่ 1.74 ล้านล้านบาท สินเชื่อ 4.4 แสนล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มนี้ 8 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 39.3% จากฐานลูกค้าทั้งหมด
ทั้งนี้ การเพิ่มกลุ่มลูกค้าบุคคลส่วนหนึ่งก็เพื่อสร้างรายได้ให้สมดุลกับการบริหารกลุ่มลูกค้าฐานราก และสนับสนุนนโยบายภาครัฐ (ตามพันธกิจของธนาคาร) ที่มีอยู่ 13 ล้านคน โดยลูกค้ากลุ่มนี้ปัจจุบันมีเงินฝากอยู่ที่ 3.6 แสนล้านบาท และมียอดสินเชื่อรวม 7.4 แสนล้านบาท
สุดท้าย กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐมีอยู่ 9 ล้านราย โดยมีเงินฝาก 2.7 แสนล้านบาท สินเชื่อ 1.01 ล้านล้านบาท โดย 5 ปีที่ผ่านมาธนาคารออมสินมีการปรับเปลี่ยนหลายด้าน ทั้งเพื่อสร้างรากฐานขององค์กร และการเปลี่ยนภาพลักษณ์เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของประชาชน โดยหวังว่าจากโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้จะส่งต่อให้ ผอ. คนต่อไปสามารถต่อยอด และพัฒนาสิ่งใหม่มาตอบสนองประชาชนได้มากขึ้น
โดยผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนที่ 17 ที่จะเริ่มงานในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้คือ ‘วิทัย รัตนากร’ เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
