×

ชาติไทยพัฒนาย้ำ ไม่ได้ยุบพรรค-ล่มสลาย แจงย้ายซบภูมิใจไทยเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดพรรคเล็ก

โดย THE STANDARD TEAM
23.11.2025
  • LOADING...
ชาติไทยพัฒนาย้ำ ไม่ได้ยุบพรรค-ล่มสลาย แจงย้ายซบ ภูมิใจไทย เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดพรรคเล็ก

วันนี้ (23 พฤศจิกายน) นิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้แถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและทิศทางในอนาคตของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยย้ำว่า ปรากฏการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่การยุบพรรค หรือ การล่มสลายของพรรคชาติไทยพัฒนา แต่เป็นการ ‘ปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่’ เพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้กับพี่น้องประชาชน

 

นิกรยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะยังคงดำรงสถานะความเป็นพรรคการเมืองและสถาบันทางการเมืองสืบต่อไป โดยทางพรรคเตรียมเสนอชื่อ กัญจนา ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรค ให้หวนกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการรักษาบ้านหลังเดิม ที่ บรรหาร ศิลปอาชา และสมาชิกอาวุโสในอดีตได้สร้างไว้ ให้ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจของสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาและประชาชนทั่วไปที่ยังศรัทธาอยู่

 

นิกรชี้แจงว่า เหตุผลและความจำเป็นสำคัญที่คณะ สส. ต้องตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย โดยจำแนกเป็นประเด็นหลัก 4 ประการ ดังนี้

 

1. การก้าวข้ามข้อจำกัดของพรรคขนาดเล็ก ที่ผ่านมาการดำเนินงานในฐานะพรรคขนาดเล็กถึงขนาดกลางต้องเผชิญกับอุปสรรคเชิงโครงสร้างมหาศาล โดยเฉพาะกติกาการเลือกตั้งและการคำนวณคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ (บัญชีรายชื่อ) ที่ทำให้พรรคเสียเปรียบ และยากที่จะรวบรวมเสียงให้ได้จำนวน สส. ที่มากพอจะเป็นพลังหลักในการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาของประเทศ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านนิติบัญญัติ เพราะการที่รัฐธรรมนูญยังกำหนดให้การเสนอญัตติเสนอร่างกฎหมายเพื่อประชาชนในนามพรรคต้องมี สส. ไม่น้อยกว่า 20 คนลงนาม ซึ่งที่ผ่านมาพรรคมีจำนวนไม่ถึง ทำให้ไม่สามารถเสนอกฎหมายใดๆ ได้เอง ต้องคอยขอเสียงจากพรรคอื่นในการเสนอกฏหมาย

 

2. อุปสรรคทางด้านการทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหาที่สำคัญที่สุดของคนทำงานทางการเมืองคือ การเห็นประชาชนเดือดร้อน แต่ไร้อำนาจจะช่วยเหลือ และยิ่งไปกว่านั้น ในยามวิกฤตที่พี่น้องประชาชนประสบภัยพิบัติ น้ำท่วม หรือราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เสียงของพรรคเล็กมักไม่ดังพอที่จะเร่งรัดมาตรการเยียวยาหรือจัดงบประมาณเข้าแก้ไขได้อย่างทันท่วงที การไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นพรรคใหญ่ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้จริงได้ทันการณ์เป็นรูปธรรม

 

3. อุดมการณ์ร่วมในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเลือกพรรคภูมิใจไทยคือ จุดยืนที่ตรงกันกับพรรคชาติไทยพัฒนาอย่างแน่วแน่ในการเทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ การผนึกกำลังกันครั้งนี้ จะทำให้กำแพงแห่งความจงรักภักดีมีความเข้มแข็งและเป็นปึกแผ่นมากยิ่งขึ้น เพื่อธำรงไว้ซึ่งศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ

 

4. การร่วมสร้างภารกิจประวัติศาสตร์ คือ รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน อดีตหัวหน้าพรรค บรรหาร ศิลปอาชา เคยสร้างตำนาน ‘รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540’ ซึ่งเป็นฉบับที่มาจากประชาชนมากที่สุด

 

การย้ายไปร่วมงานครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือการขอการสนับสนุนจากพรรคภูมิใจไทยที่มีฐานเสียงในสภาจำนวนมาก เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนฉบับใหม่ให้สำเร็จ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาไม่สามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้โดยลำพังอย่างแน่นอน

 

นิกรระบุว่า การไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เปรียบเสมือนการกลับไปพบปะคนกันเอง เพราะในพรรคภูมิใจไทยเต็มไปด้วยอดีตสมาชิกพรรคชาติไทยดั้งเดิมหลายท่าน ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและทำงานการเมืองเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ความสัมพันธ์แบบ ‘รู้มือ รู้ใจ’ นี้ จะทำให้การเชื่อมต่อนโยบาย และการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาปรับตัว

 

“วันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ เราตัดสินใจให้ขุนพลของพรรคออกไปสู่สมรภูมิที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้มีเครื่องมือทางการเมืองครบมือ ในการทำงานรับใช้ประชาชน ในขณะที่เรายังคงรักษา ‘ค่ายเดิม’ หรือพรรคชาติไทยพัฒนาไว้ด้วยความรักและศรัทธา ภายใต้การนำของ กัญจนา ศิลปอาชา ซึ่งได้รับการตอบยืนยันมาแล้ว ขอให้มั่นใจว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในบริบทใด จิตวิญญาณความเป็นพรรคชาติไทยดั้งเดิม และความตั้งใจจริงในการพัฒนาประเทศจะยังคงเข้มข้น และดำรงอยู่เพื่อสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และพี่น้องคนไทยตลอดไป” นิกรกล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising