รยุศด์ บุญทัน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทยกล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีในการทำหน้าที่ของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่ารัฐบาลมีความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ปัญหาปากท้อง คนว่างงาน ความเหลื่อมล้ำและอื่นๆ ซึ่งทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต่างได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า ไม่รวมถึงการบริหารจัดการสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และสิ่งที่สังคมตั้งคำถามมากที่สุดคือ ความล้มเหลวในการใช้หลักนิติธรรม นิติรัฐในการบริหารและปกครองประเทศ ซึ่งได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การชุมนุมประท้วงของนักเรียน นิสิต และนักศึกษาจากหลายสถาบัน ที่รวมตัวออกมาเคลื่อนไหวแสดงพลังเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ และผู้มีอำนาจ แสดงความรับผิดชอบ
รยุศด์กล่าวต่อว่า พรรคสามัคคีไทย แม้ว่าจะเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ ไม่มี ส.ส. สังกัด แต่ก็เป็นพรรคที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มคนทุกรุ่นที่มีความห่วงใย และอยากเห็นบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น นำพาประเทศก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนา และมีระบอบประชาธิปไตยที่ทันสมัยก้าวทันโลก จึงขอเสนอทางออกวิกฤตประเทศ เพื่อฝ่าทางตันทางการเมือง ฝากไปยังรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และผู้มีอำนาจทั้งหลาย ดังนี้
ข้อเสนอ ‘3 เร่ง 4 สร้าง’
1.เร่งให้มีการแก้ไขบทบัญญัติในมาตรา 256 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ เพื่อเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีตัวแทนจากทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รัฐมนตรี ผู้พิพากษา (ฝ่ายตุลาการ) ตัวแทนนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ตัวแทนประชาชนทุกกลุ่มสาขาอาชีพ และตัวแทนนักเรียน นิสิตนักศึกษา เพื่อมาร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มุ่งเน้นให้มีความเป็นประชาธิปไตย เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และทำให้องค์กรและสถาบันทางการเมืองทั้งหลายมีความยึดโยงกับประชาชน และสามารถตรวจสอบได้ เช่น ยกเลิกอำนาจ ส.ว. 250 คน ที่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ และหาก ส.ว. มาจากการแต่งตั้งก็ควรจำกัดบทบาทหน้าที่ หรือการจำกัดอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
2.เร่งดำเนินการให้รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกทั้งคณะ หรือยุบสภา เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่อย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม ตรวจสอบได้ ไม่ให้อำนาจกองทัพ ทหารหรือผู้เกี่ยวข้องกับอดีตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งรัฐบาลอาจจะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการจนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ได้
3.เร่งดำเนินการสร้างระบบการเลือกตั้งสมัยใหม่ ด้วยการปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้งให้มีความเป็นอิสระทางการเมือง ห้ามมีการแทรกแซง และมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้
4.สร้างการรับรองสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน (Freedom of Expression) เปิดพื้นที่อย่างเสรี รับฟังความคิดเห็นต่างของประชาชน รัฐบาล หน่วยงานความมั่นคง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต้องถอนฟ้องและไม่ฟ้องประชาชนที่เห็นต่าง เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตยของประเทศให้มีความทันสมัยเท่าทันโลก เป็นระบอบประชาธิปไตยแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง
5.สร้างระบบยุติธรรมสมัยใหม่ ห้ามมีการแทรกแซงองค์กรอิสระ และมุ่งเน้นการรับรองการทำงานของกระบวนการยุติธรรมหรือฝ่ายตุลาการให้มีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงของรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจ เพื่อฟื้นฟูหลักนิติธรรมและนิติรัฐของประเทศ
6.สร้างระบบการเลือกตั้งท้องถิ่นให้เข้มแข็ง จัดให้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและ กทม. ให้เร็วที่สุด
7.สร้างกลไกการมีส่วนร่วมและการตรวจสอบหน่วยงานรัฐ องค์กรอิสระ อย่างเข้มแข็งโดยภาคประชาชน เช่น การให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระได้ หากเห็นว่ามีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือความมุ่งหมายแก่ประชาชนและประเทศชาติ
ดร.รยุศด์กล่าวทิ้งท้ายว่า จากข้อเสนอ ‘3 เร่ง 4 สร้าง’ ดังกล่าว เป็นแนวทางที่ตนและพรรคสามัคคีไทยขอเสนอไปยังรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ และผู้มีอำนาจได้พิจารณา เพื่อนำพาประเทศก้าวพ้นความขัดแย้ง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า