เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่า คลิปชาร์ลีกัดนิ้วผม ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในคลิปไวรัลที่ได้รับความนิยมบน YouTube ด้วยยอดผู้เข้าชมเกือบ 900 ล้านวิว เตรียมถูกลบออกจาก YouTube เป็นการถาวร หลังจากที่ทางครอบครัวตัดสินใจนำคลิปดังกล่าวออกประมูลบนแพลตฟอร์มคริปโตฯ แบบ NFT (Non-Fungible Token) และสามารถเคาะราคา NFT ได้ที่ 760,990 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 23.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ครอบครัวเดวีส์-คาร์ในอังกฤษ เจ้าของคลิปดังกล่าวที่โพสต์ลงบน YouTube ตั้งแต่ปี 2007 ได้เปิดประมูลคลิปชาร์ลีกัดนิ้วผม ความยาว 56 วินาที เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตัวคลิปเป็นการบันทึกภาพหนุ่มน้อยแฮร์รีกับชาร์ลี น้องชายที่คว้าเอามือพี่ชายไปแทะเล่น ก่อนที่แฮร์รีจะแหย่นิ้วเข้าปากน้องชาร์ลีให้แทะเล่นอีกรอบ แต่คราวนี้ชาร์ลีกัดอย่างแรงจนแฮร์รีร้องลั่น และเอ่ยประโยคเด็ดที่กลายเป็นชื่อคลิปว่า “ชาร์ลีกัดนิ้วผม”
การประมูลเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมทั้งหมด 11 ราย และขับเคี่ยวกันจนกระทั่งเหลือผู้ประมูล 2 ราย ซึ่งใช้ชื่อว่า 3fmusic กับ mememaster ก่อนที่ 3fmusic จะเอาชนะการประมูลไปได้ โดย NFT ถือเป็นสกุลเงินคริปโตฯ ที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้แทนค่าของทรัพย์สินดิจิทัลในรูปแบบของโทเคนหรือเหรียญที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรือทดแทนด้วยสินทรัพย์อื่นๆ ได้ ซึ่งปัจจุบัน NFT ยังเป็นหนึ่งในเทรนด์ยอดนิยมที่นำมาใช้ในการซื้อขายผลงานศิลปะ เช่น ภาพวาด บทเพลง และคลิปไวรัลทั้งหลาย
คลิปชาร์ลีกัดนิ้วผมไม่ใช่คลิปไวรัลแรกที่มีการนำออกมาประมูลใน NFT โดยเดือนที่แล้ว คลิป Disaster Girl ก่อนกลายเป็นรูปภาพที่นำมาทำมีมยอดฮิต ซึ่งหลายคนชอบเรียกกันเล่นๆ ว่า มีมเด็กเผาบ้าน หรือมีมเด็กนรก ที่โพสต์บนโลกออนไลน์เมื่อปี 2005 สามารถประมูล NFT ได้ถึง 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ คลิปแอนิเมชันแมวบินอย่าง Nyan Cat ประมูลได้ 5.8 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือคลิป LeBron James นักกีฬาบาสเกตบอล NBA บล็อกผู้เล่นจากทีม Lakers ในเกมการแข่งขัน สามารถประมูลได้ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ภายหลังการประมูลเสร็จสิ้น ผู้ใช้บัญชี 3fmusic จะถือเป็นเจ้าของคนใหม่ของคลิปดังกล่าว ทำให้มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจว่าจะเผยแพร่คลิปที่ประมูลมาได้ต่อไปอย่างไร ทำให้จำเป็นที่จะต้องลบคลิปดังกล่าวออกจาก YouTube รวมถึงสิทธิ์ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ในรูปแบบเดิม โดยมีรายงานว่า มีการขอให้พี่น้องแฮร์รีกับชาร์ลีกลับมาแสดงนำในคลิปด้วย
ด้านครอบครัวเดวีส์-คาร์กล่าวว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจจะนำเงินที่ประมูลได้ไปทำอะไร และไม่คิดว่าคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่บันทึกไว้ตามปกติเพราะต้องการเก็บภาพพัฒนาการของลูกๆ จะกลายเป็นคลิปไวรัลที่โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
อ้างอิง: