วันนี้ (19 ตุลาคม) กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ เวลา 06.00 น. พบว่าปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่ตอนบนของประเทศ โดยขณะนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สถานการณ์น้ำสำคัญ:
- สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์: มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,845 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำอยู่ที่ 24.58 เมตร ซึ่งยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.12 เมตร แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท: ปริมาณน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนอยู่ที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.68 เมตร ส่วนระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.94 เมตร ซึ่งต่ำกว่าตลิ่ง 40 เซนติเมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
กรมชลประทานได้เร่งบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาด้วยการ หน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมกับรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ มีรายงานพื้นที่ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำบริเวณด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น ดังนี้:
- จังหวัดอ่างทอง: คลองโผงเผง, วัดไชโย, และอำเภอป่าโมก
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ติดแม่น้ำน้อย): คลองบางบาล, ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา, ตำบลลาดชิด, และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่
- จังหวัดสิงห์บุรี: วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี, อำเภอเมืองสิงห์บุรี, อำเภอพรหมบุรี, และวัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี
- จังหวัดชัยนาท: ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา
กรมชลประทานระบุว่า หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์เป็นระยะต่อไป ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงติดตามประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิด