×

‘เจ้าสัว’ จากจุดเริ่มต้นใน จ.นครราชสีมา สู่ผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวที่ครองใจผู้บริโภคทั้งไทยและต่างประเทศ ที่สร้างรายได้หลักพันล้านต่อปี

12.06.2024
  • LOADING...
เจ้าสัว

‘เจ้าสัว’ แบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 66 ปี ได้เริ่มต้นจากธุรกิจของฝากแปรรูปจากเนื้อสัตว์ในจังหวัดนครราชสีมา สู่การเป็นผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) ที่มีคุณภาพและประโยชน์ ครองใจผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย และเป็นทางเลือกของขนมขบเคี้ยวที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค (Better-for-You Snack) 

 

ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากนำเสนอจุดเด่นและโอกาสเติบโตของ ‘บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO’ เพื่อเชิญชวนผู้ที่สนใจให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตไปพร้อมกับผู้นำแห่งการเติมเต็มรสชาติและคุณประโยชน์จากของกินเล่น

 

สิ่งที่ทำให้ CHAO สามารถทำธุรกิจมายาวนานได้ถึง 6 ทศวรรษ ภายใต้แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูงจากผู้บริโภค ได้แก่ แบรนด์ ‘เจ้าสัว’ และแบรนด์ ‘โฮลซัม’ (Wholesome) คือการใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี ผ่านกรรมวิธีพิถีพิถัน คิดค้นสูตรลับความอร่อยที่ลงตัว ผลลัพธ์คือขนมขบเคี้ยวหลากหลายรูปแบบที่ทั้งอร่อย ดีต่อสุขภาพ และเหมาะกับทุกโอกาส

 

ที่สำคัญ CHAO เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ จึงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นข้าวตัง ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์ แครกเกอร์ธัญพืช อาหารพร้อมทาน และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ด้วยคุณภาพและรสชาติที่เหนือชั้น ผลิตภัณฑ์ของ CHAO จึงได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในตลาดข้าวตัง (78.5%) และตลาดขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู (57.2%) ในประเทศไทย (ในปี 2565) และส่งออกไปยัง 12 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และออสเตรเลีย

 

CHAO ยังได้มุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยวชั้นนำระดับโลกด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้า คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า และสร้างการรับรู้แบรนด์ สู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน

วิสัยทัศน์ของ CHAO คือ ‘นำสูตรลับความอร่อยตำรับเจ้าสัวสู่คุณ’ โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวอย่างข้าวตัง ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์ แครกเกอร์ธัญพืช หนังปลา ชุดของขวัญ และขนมขบเคี้ยวอื่นๆ และกลุ่มสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์อาหาร โดยแบ่งเป็นสินค้าประเภทอาหารพร้อมปรุง เช่น กุนเชียง หมูยอ ไส้กรอกอีสาน แหนม และอาหารพร้อมรับประทานอย่างหมูหยอง หมูสวรรค์ หมูนุ่มเส้น หมูเส้นฝอย และหมูทุบ เป็นต้น

 

CHAO มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น 

  1. ร้านค้าปลีกและค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) กว่า 24,000 สาขาทั่วประเทศ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าปลีกในรูปแบบขายส่ง
  2. ร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) กว่า 10,000 สาขา ประกอบด้วยร้านค้าเจ้าสัว ร้านค้าปลีกในจังหวัดต่างๆ และร้านแฟรนไชส์ในสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ 

รวมถึงช่องทางออนไลน์และธุรกิจแบบ B2B ได้แก่ Shopee, Lazada, Facebook และ TikTok

 

นอกจากนี้ CHAO จัดจำหน่ายในส่วนตลาด (Market Segment) ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูง โดยตลาดข้าวตังมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 14.6% และตลาดขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมูมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 23% ในช่วงปี 2565-2570 

 

ที่สำคัญ CHAO เป็น ‘แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูง’ มีความรู้ความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค และมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

 

ประกอบกับการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์วัตถุดิบในประเทศหลายราย และมีประสบการณ์ทำธุรกิจมายาวนาน จากทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ทำให้สามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังและต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ผลลัพธ์เหล่านี้ได้สะท้อนออกมายังผลประกอบการ ได้แก่ 

  • ปี 2564 รายได้จากการขาย 1,135.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64.4 ล้านบาท
  • ปี 2565 รายได้จากการขาย 1,413.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 86.6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้จากการขาย 1,493.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 161.6 ล้านบาท
  • ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 รายได้จากการขาย 336.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 26.7 ล้านบาท 

 

ลึกลงไปยังสามารถแบ่งโครงสร้างรายได้ดังนี้ 

  • ปี 2564 กลุ่มขนมขบเคี้ยว (Snack) 832.2 ล้านบาท แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มข้าวตัง 398.7 ล้านบาท ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู (Pork Snack) 162.2 ล้านบาท แครกเกอร์ธัญพืช 108.8 ล้านบาท ขนมขบเคี้ยวอื่นๆ 162.4 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร (Meal) 302.9 ล้านบาท 
  • ปี 2565 กลุ่มขนมขบเคี้ยว (Snack) 1,124.9 ล้านบาท แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มข้าวตัง 475.9 ล้านบาท ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู (Pork Snack) 262.9 ล้านบาท แครกเกอร์ธัญพืช 207.5 ล้านบาท ขนมขบเคี้ยวอื่นๆ 178.6 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร (Meal) 288.7 ล้านบาท
  • ปี 2566 กลุ่มขนมขบเคี้ยว (Snack) 1,235.6 ล้านบาท แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มข้าวตัง 470.7 ล้านบาท ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู (Pork Snack) 296.8 ล้านบาท แครกเกอร์ธัญพืช 231.9 ล้านบาท ขนมขบเคี้ยวอื่นๆ 236.2 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร (Meal) 257.8 ล้านบาท
  • ปี 2567 กลุ่มขนมขบเคี้ยว (Snack) 271.5 ล้านบาท แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มข้าวตัง 129.6 ล้านบาท ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู (Pork Snack) 61.9 ล้านบาท แครกเกอร์ธัญพืช 40.3 ล้านบาท ขนมขบเคี้ยวอื่นๆ 39.7 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร (Meal) 64.7 ล้านบาท 

สำหรับ CHAO แม้วันนี้จะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำแล้วว่าประสบความสำเร็จ แต่หากมองการเติบโตในช่วงสามปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า CHAO ได้มีการขยายสัดส่วนรายได้จากกลุ่มขนมขบเคี้ยว (Snack) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีสัดส่วนของสินค้าใหม่ เช่น แครกเกอร์ธัญพืช เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย CHAO มีเป้าหมายพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจต่อไปภายใต้ทิศทางดังต่อไปนี้ 

 

  • นำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ อร่อยกลมกล่อม ถูกปาก เพื่อรักษาความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า โดยการขายสินค้าผลิตภัณฑ์และรสชาติรูปแบบใหม่ 
  • สร้างการรับรู้ของแบรนด์ ‘เจ้าสัว’ เพื่อให้เป็นสินค้า Top of Mind สำหรับผู้บริโภค เป็นทางเลือกของการรับประทานขนมขบเคี้ยวที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค (Better-for-You Snack) ผ่านกลยุทธ์การทำตลาดแบบ 360 องศา ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคทุกช่องทาง
  • สร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตของรายได้ และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เช่น ขนมขบเคี้ยวจากเนื้อสัตว์อื่นๆ นอกเหนือจากเนื้อหมู เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
  • ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและขยายฐานลูกค้า
  • มุ่งเน้นการทำการตลาดต่างประเทศ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มประเทศเป้าหมาย และขยายการส่งออกไปยังประเทศใหม่ๆ
  • บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการลงทุนในระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างอัตรากำไรที่สูงขึ้น 
  • ร่วมลงทุนในกิจการที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

 

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการที่ CHAO มุ่งมั่นเป็นทางเลือกของนักลงทุนที่มองหาธุรกิจที่มั่นคง เติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดี

 

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตไปกับ ‘CHAO’ ผู้นำความสุขเต็มรสชาติ คุณประโยชน์จากของกินเล่น

 

เจ้าสัว

 

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising