หลังจากที่ Chanel ได้เปิดร้านชั่วคราวในคอนเซปต์ชื่อ Ephemeral Boutique มาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ณ ห้างสยามพารากอน ล่าสุดตัวร้านจริง (Permanent Boutique) ที่ปิดปรับปรุงไปกว่า 8 เดือนก็ได้เปิดและเผยโฉมใหม่ให้เห็นกันแล้ว ซึ่งก็ยังคงอยู่ที่โซนเดิมของชั้น M ที่คุ้นเคยกันดี
ทาง Chanel ได้ขยายพื้นที่ตัวร้านให้ใหญ่ขึ้น ครอบคลุมกว่า 480 ตารางเมตร ซึ่งได้สถาปนิกระดับโลกคู่ขาประจำของแบรนด์อย่าง Peter Marino มาออกแบบให้เหมือนเดิม โดยถือว่าร้านนี้เผยโฉมใหม่ในช่วงเวลาที่ทาง Chanel เตรียมปล่อยหนังสือภาพในชื่อ Peter Marino: The Architecture of Chanel ออกมาพอดี ภายใต้สำนักพิมพ์ชื่อดัง Phaidon ซึ่งจะเล่าเรื่องราวและแง่มุมการดีไซน์ของบรรดาแฟลกชิปสโตร์สุดไอคอนิกของ Chanel ที่ Peter Marino ได้ออกแบบให้ทั่วโลกตั้งแต่ที่ Beverly Hills, Miami, Istanbul, Hong Kong, Seoul หรือแม้แต่ร้านในสนามบินชื่อดังด้วย
โฉมใหม่ของร้าน Chanel ที่สยามพารากอนถือว่าดูสบายตา อบอุ่น และดูโล่งมากยิ่งขึ้น ถึงแม้การตกแต่งภายในยังคงดีเอ็นเอของแบรนด์ได้อย่างเต็มเปี่ยม ที่นำกลิ่นอายของอพาร์ตเมนต์ระดับตำนานของผู้ก่อตั้งแบรนด์ Coco Chanel ณ ถนน 31 Rue Cambon ที่กรุงปารีส ซึ่งพาเลตต์สีร้านก็เน้นขาว ดำ และเบจเป็นหลัก โดยร้านนี้ครอบคลุมเกือบทุกประเภทของ Chanel ตั้งแต่เสื้อผ้า Ready-To-Wear, กระเป๋า, แอ็กเซสซอรี, นาฬิกา, เครื่องประดับ และที่เป็นไฮไลต์คือการเปิดโซนรองเท้าพิเศษที่มีมากกว่า 250 รุ่นให้ได้เลือกกัน
แต่เพื่อยกระดับให้ร้านที่สยามพารากอนแตกต่างไปจากที่อื่นๆ ของ Chanel ทาง Peter Marino ได้ตกแต่งตัวร้านด้วยไอเท็มศิลปะและเฟอร์นิเจอร์สั่งทำพิเศษโดยเฉพาะ อาทิ ผลงานของศิลปินชาวอเมริกัน Patrick Hill, แชนเดอร์เลียที่ออกแบบโดย Goossens, โต๊ะกาแฟทองเหลือง (Brass) ดีไซน์โดย Michael Pohu หรือแม้แต่ตัวกระจกเงินในห้องลองเสื้อผ้า ก็ดีไซน์โดยดีไซเนอร์ดูโอ้ในนาม Curtis Jeré
ปิดท้ายความพิเศษของร้านที่สยามพารากอนแห่งนี้ คือการเป็นร้านแรกของกรุงเทพฯ ที่อยู่ติดกับร้านบิวตี้ เครื่องสำอาง และน้ำหอมของ Chanel ที่ถือว่ามีผลิตภัณฑ์ครบครันสุด โดยภาพรวมถือว่าเป็น One Stop Service สำหรับสาวกตัวจริงของแบรนด์ที่จะมาช้อปสินค้าได้ทั้งในส่วนของเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าความงามดูแลตัวเองได้ทีเดียว
การที่ Chanel ตัดสินใจปรับโฉมร้านที่สยามพารากอน ถือเป็นการวางกลยุทธ์สำคัญของทางแบรนด์ที่ Bruno Pavlovsky เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้กับเว็บไซต์ WWD ว่า Chanel ไม่ได้สนใจที่จะเปิดร้านค้า ขยายสาขาใหม่มากมายทั่วโลกหากเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ แต่เลือกที่จะปรับโฉมและปรับการให้บริการของร้านกว่า 250 ร้านค้าทั่วโลกมากกว่า เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ณ เวลานี้
ภาพ: Chanel
