ถ้านึกถึงสาขาสำคัญของ Chanel หลายคนคงนึกถึงสาขาหมายเลข 31 ถนน Cambon ในกรุงปารีส ที่เป็นเหมือนสาขาต้นกำเนิดของแบรนด์ แต่ยังมีอีกสาขาหนึ่งในกรุงปารีสที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ก็คือสาขาหมายเลข 18 จัตุรัส Vendôme อันเป็นสาขาที่รวมเครื่องประดับ จิวเวลรี และนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดของ Chanel ได้กลับมาเปิดประตูต้อนรับลูกค้าอีกครั้งหลังปิดปรับปรุงไปนานถึง 2 ปี
โดยร้านสาขาแฟลกชิปฝั่งจิวเวลรีและนาฬิกาแห่งนี้มีความสูงถึง 3 ชั้น ภายในออกแบบและตกแต่งโดยสถาปนิกและนักออกแบบภายในชาวอเมริกันชื่อดังที่ร่วมงานกับแบรนด์มานับไม่ถ้วนอย่าง Peter Marino ซึ่ง Chanel ได้ขยายพื้นที่จากเดิมที่มีเพียงประมาณ 5,000 ตารางฟุต เพิ่มมาถึง 10,600 ตารางฟุต ซึ่งแน่นอนว่าจะรองรับดิสเพลย์สินค้าอันมีค่าได้มากขึ้น
จุดสังเกตที่เป็นเอกลักษณ์ของสาขานี้คือบานประตูทางเข้าสีน้ำเงิน ที่จะพาลูกค้าเข้าไปสู่โลกของเครื่องประดับจาก Chanel โดยชั้นแรกจะเป็นจะเป็นโถงผนังสีดำที่เต็มไปด้วยไฟน์จิวเวลรี และตรงกลางของส่วนนี้ยังมีเสาสีบรอนซ์ที่ Peter Marino ได้แรงบันดาลใจมาจาก Vendôme Column หรือเสาที่ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสด้านหน้า ส่วนชั้น 2 จะเป็นโถงสีครีมแผนกนาฬิกา ที่มีทั้งรุ่นไอคอนิกและรุ่นพิเศษ
และขึ้นไปชั้น 3 จะเป็นส่วนใหม่ที่แบรนด์เพิ่งเปิด ซึ่งเป็นที่จัดแสดงของสร้อยเพชรรุ่น 55.55 ที่ทำออกมาเป็นรูปขวดน้ำหอม Chanel No.5 เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของน้ำหอมกลิ่นที่โด่งดังที่สุดในโลก พร้อมกับประตูที่ซ่อนอยู่ด้านหลังบนชั้นนี้ ที่จะพาลูกค้าไปพบกับห้องสำหรับนัดทำจิวเวลรีส่วนตัวโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละห้อง Chanel จะจัดแสดงงานศิลปะควบคู่ไปกับสินค้าอันเลอค่าของแบรนด์
ปัจจุบัน Chanel มีร้านที่จำหน่ายเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องประดับและนาฬิกาอยู่ประมาณ 55 สาขาทั่วโลก ซึ่งสาขาหมายเลข 18 จัตุรัส Vendôme ไม่เพียงแต่จะเป็นสาขาแฟลกชิปสำหรับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังจะเป็นสตูดิโอและห้องเวิร์กช็อปของแผนกออกแบบเครื่องประดับ ที่นำทีมโดย Patrice Leguéreau และ Arnaud Chastaingt ผู้อำนวยการฝั่งออกแบบนาฬิกา ที่ใช้พื้นที่แห่งนี้เป็นที่ทำงานตั้งแต่ปี 2012
ภาพ: Chanel
