ในยุคสมัยนี้ การที่แบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่จะไปจัดรันเวย์พิเศษที่ต่างประเทศนอกเหนือจากแฟชั่นวีคใน 4 หัวเมืองใหญ่สำหรับคอลเล็กชัน Cruise หรือ Pre-Fall ถือว่าเป็นกิจกรรมสร้าง Brand Awareness ที่คุ้นชินกันเป็นอย่างมาก และมาพร้อมฉากตระการตาที่ใช้ทุนระดับทำพิธีเปิดหรือปิดโอลิมปิก แต่สำหรับ CHANEL ซึ่งเป็นลักชัวรีแบรนด์เจ้าแรกที่ทำ Destination Show แบบนี้มาเนิ่นนานก่อนใคร ในช่วงหลังพวกเขาก็ขอพลิกเกมและไม่เดินตามใคร สำหรับโชว์คอลเล็กชัน Métiers d’Art โดยปักหมุดเมืองที่เมื่อประกาศออกมาปุ๊บก็ทำให้คนตั้งคำถามถึงเหตุผลที่เลือกเมืองนี้
โดยหลังจากสร้างประวัติศาสตร์ไปปีก่อนกับเมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัล มาในปีนี้ Virginie Viard ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ CHANEL ก็ได้เลือกเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นสถานที่จัดโชว์ Métiers d’Art 2023/24 ซึ่งสำหรับเรานี่คือหนึ่งในผลงานที่ยอดเยี่ยม ฉลาด และลงตัวที่สุดของเธอตั้งแต่มารับไม้ต่อจาก Karl Lagerfeld เมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว
หากมองในบริบทการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์กับแบรนด์ CHANEL ก็ถือว่าพิเศษ เพราะผู้ก่อตั้ง Gabrielle Chanel เคยมาใช้ชีวิตเที่ยวเล่นที่ Eaton Hall บ้านพักตากอากาศย่านชานเมืองแมนเชสเตอร์ ของคนรักอย่างดยุกแห่งเวสต์มินสเตอร์ แต่สำหรับตัวคอลเล็กชัน Métiers d’Art 2023/24 เอง ทาง Virginie Viard ก็ไม่ได้เลือกที่จะนำช่วงเวลานั้นมาตีความเพื่อเป็นแรงบันดาลใจมากนัก แต่กลับนำเรื่องราวอิทธิพลด้านวัฒนธรรมต่างๆ ของแมนเชสเตอร์ ทั้งศิลปะ กราฟิก ดนตรี หรือกีฬา มาเป็นแก่นของดีไซน์และมู้ดของโชว์
โดยเห็นตั้งแต่การชวน Peter Saville นักออกแบบกราฟิกระดับตำนานที่มาจากแมนเชสเตอร์มาทำ CI ของโชว์ ต่อด้วยการใช้เพลง Blue Monday ของวงระดับตำนานจากเมืองนี้เช่นกันอย่าง New Order มาใช้โปรโมต หรือแม้แต่แขกของโชว์ที่มานั่งฟรอนต์โรว์ของรันเวย์ที่ถนน Thomas Street ก็ยังมีทั้ง Gene และ Lennon Gallagher มาด้วยกัน ซึ่งพวกเขาก็คือลูกของ Liam Gallagher แห่งวง Oasis ที่มาจากแมนเชสเตอร์เช่นกัน
สำหรับเสื้อผ้าทั้งหมด 72 ลุค ทาง Virginie Viard เน้นการนำผ้าทวีดสุดไอคอนิกของ CHANEL มายกระดับความจัดจ้านกับสีสันสุดป๊อป และมาในรูปทรงที่อิงไปทางยุค 60 โดยมีให้เห็นในชุดสูทและโค้ตยาวที่ประดับด้วยดอกคาเมลเลีย ส่วนไฮไลต์อื่นๆ ก็มีตั้งแต่หมวกทรง Newsboy, รองเท้า Mary Janes, ลุคสเวตเตอร์ลาย Argyle, กลุ่มชุด Outerwear หนัง, เสื้อสเวตเตอร์สีฟ้าลายกราฟฟิตี้ Paris-Manchester ที่รอเป็นสินค้า Best Seller แน่นอน และลุคเกาะอกมินิเดรสสีดำ ที่ท่อนบนปักรูปแผ่นเสียงไวนิล โชว์งานฝีมืออันล้ำเลิศของช่าง CHANEL ที่ทำงานในตึก le19M ปารีส
ซึ่งคอลเล็กชัน Métiers d’Art ทุกครั้งก็ต้องการไฮไลต์เรื่อง Craftsmanship ที่สำคัญอย่างมากต่อวงการแฟชั่น โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนพูดถึง AI และการที่เทคโนโลยีจะมาเทกโอเวอร์ศิลปะการทำเสื้อผ้า ซึ่งเชื่อว่า CHANEL จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นแน่นอน
ภาพ: CHANEL
