ย้อนกลับไปเมื่อปี 1915 ในเมืองติดชายทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศสอย่าง Biarritz ผู้หญิงที่ชื่อ Gabrielle Chanel ตัดสินใจเปิดห้องเสื้อโอต์กูตูร์ (Haute Couture) เป็นของตัวเองในชื่อ CHANEL พร้อมว่าจ้างช่างตัดเย็บเสื้อผ้าฝีมือขั้นเทพอีก 300 ชีวิตเพื่อมาช่วยกันรังสรรค์คอลเล็กชันแรกของเธอ ซึ่งผ่านมาแล้ว 110 ปีจากวันนั้นสู่วันนี้ แม้ Gabrielle Chanel จะจากโลกนี้ไป 54 ปีแล้ว แต่ห้องเสื้อโอต์กูตูร์ของเธอก็ยังคงยืนหยัดและก้าวต่อไปที่จะสร้างความฝัน ความสง่างาม และอิสรภาพในการแต่งตัวให้ทุกคนที่เลือกสวมใส่
ล่าสุดกับคอลเล็กชันโอต์กูตูร์ Spring/Summer 2025 ทีมดีไซน์ Creation Studio ตัดสินใจอยากฉลองที่ CHANEL เป็นแบรนด์ที่ทำโอต์กูตูร์มายาวนานที่สุดจนถึงปัจจุบัน รวมถึงหยิบเรื่องราวที่ Gabrielle Chanel เป็นอีกหนึ่ง Master of Color นอกเหนือจากสีดำ เบจ ทอง และแดง ที่เรามักคุ้นตากัน ทำให้คอลเล็กชันนี้มีพาเลตต์ที่หลากหลายเฉดสี และเหมาะกับวลีที่ Gabrielle Chanel เคยพูดไว้ว่า “The best colour in the whole world is the one that looks good on you” ที่แปลว่า สีที่ดีที่สุด คือสีที่ดูดีบนเรือนร่างของคุณ
แรงบันดาลใจของคอลเล็กชันนี้ถือว่าค่อนข้างกว้างในการตีความ รูปทรงเสื้อผ้าที่เราเห็นกันก็เลยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหลากสไตล์กับหลากกิจกรรมตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ไม่ว่าจะสูทผ้าทวีดทรงคลาสสิกที่ถูกเติมแต่งด้วยผ้าซาตินสีสดและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ชุดซัมเมอร์เดรสพลิ้วไหวประดับโบ จนถึงชุดราตรีที่เราเชื่อว่าดาราเอลิสต์ต้องใส่ไปงานออสการ์ต้นเดือนมีนาคม และลุคเจ้าสาวปิดท้ายคอลเล็กชัน ที่ซีซันนี้ Lulu Tenney นางแบบอเมริกันได้รับเกียรติให้ใส่
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ต้องพูดถึงกับโชว์นี้ก็คือการที่ CHANEL ได้ Willo Perron มาออกแบบฉาก Runway Scenography ให้ หลังเขาเพิ่งออกแบบฉากการแสดงของ Beyoncé สำหรับ Christmas Day Halftime Show เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดย Willo Perron ได้ไอเดียที่จะสร้างรันเวย์สีขาวมินิมัลแบบสโลปยกระดับสุดกราฟิกที่พอมองจากมุมสูงก็เหมือนโลโก้ C ไขว้ของ CHANEL ผสมสัญลักษณ์อินฟินิตี
ซึ่งสิ่งที่น่าตื่นเต้นต่อไปคือหาก Willo Perron จะยังช่วยดีไซน์รันเวย์ของ CHANEL ในยุคของ Matthieu Blazy ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ ทั้งคู่จะช่วยกันสร้างโลกของรันเวย์ CHANEL ออกมาอย่างไรในอาคาร Grand Palais ที่ปารีส โดยเราต้องรอดูผลงานแรกของ Blazy ในเดือนตุลาคมนี้ กับคอลเล็กชัน Ready-to-Wear Spring/Summer 2026
ภาพ: CHANEL
