CHANEL เปิดตัวร้านสาขา Central Embassy โฉมใหม่ หลังจากปิดปรับปรุงไปนานกว่า 6 เดือน พร้อมกับขนาดร้านที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รวมแล้วกว่า 600 ตารางเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้า Ready-to-Wear กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ และนาฬิกา
โดย CHANEL ได้ให้นักออกแบบที่ร่วมงานกับแบรนด์มายาวนานอย่าง Peter Marino เป็นผู้ดูแลการตกแต่งภายในเช่นเคย ซึ่งเขายังคงยึดสีและวัสดุหลักตามแบบฉบับของแบรนด์ที่แทรกซึมอยู่ในทุกการออกแบบสินค้า ทั้งสีขาว ดำ เบจ แทรกด้วยโลหะสีทองอ่อนๆ และวัสดุที่หรูหราแต่อบอุ่นอย่างพรมผ้าวูลและเฟอร์นิเจอร์บุผ้าทวีด
ส่วนแผนผังในร้านนี้ CHANEL ได้ออกแบบให้ทุกคนที่เดินเข้ามารู้สึกเหมือนเข้ามาในอพาร์ตเมนต์หมายเลข 31 ถนน Rue Cambon ในปารีสของ Gabrielle Chanel ที่จะแบ่งโซนออกเป็นห้องๆ เริ่มที่โซนกระเป๋าและแอ็กเซสซอรีที่ตกแต่งด้วยวัสดุทองเหลือง และโคมไฟหินคริสตัลตกแต่งด้วยทองฝีมือของ Goossens หนึ่งในห้องเวิร์กช็อปที่ทำเครื่องทองให้กับแบรนด์
ซึ่งในพื้นที่แบบเปิดนี้ลูกค้าจะได้พบกับสินค้าเครื่องหนังและเครื่องประดับอยู่รวมกัน ทั้งกระเป๋ารุ่นขายดีอย่าง CHANEL 22 ในขนาดใหม่ไซส์มินิที่เชื่อว่าน่าจะเป็นรุ่นที่มีเท่าไรก็หมด ต่อด้วยโซนเครื่องประดับที่ขนมาครบทั้งไฟน์จิวเวลรีอย่าง COCO CRUSH เรื่อยมาถึงคอสตูมจิวเวลรี แว่นตา และนาฬิกา ทั้งรุ่น CHANEL PREMIÈRE, CHANEL BOYFRIEND และ J12 ต่อด้วยโซนรองเท้าในฝั่งตรงข้าม ที่มีทางเข้าจากหน้าร้านของตัวเองโดยเฉพาะ
แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับสาขานี้คือการวางขายเสื้อผ้า Ready-to-Wear ที่มีมากกว่าสาขาอื่น แถมยังมีโซนห้องลองชุดด้านในถึง 2 ส่วน โดยแบ่งออกเป็นสองห้องเล็กสำหรับลูกค้าปกติ และโซนด้านในสุดสำหรับลูกค้า VIC ที่จะมีทั้งเลานจ์รับรองจำนวน 2 ห้อง ที่สามารถทำเป็นห้องกั้นได้ พร้อมมีห้องแต่งตัวไพรเวตด้านใน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่อาจจะมาเป็นกลุ่มหรือต้องการประสบการณ์ซื้อเสื้อผ้าที่เป็นส่วนตัวไม่เหมือนที่อื่น