วันนี้ (29 มิถุนายน) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงทิศทางการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ตำแหน่งประธานสภาถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญ จึงอยากให้เป็นคนที่มีประสบการณ์ เข้าใจงานและหน้าที่ของรัฐสภา ในการที่จะต้องประสานงานร่วมกับทุกพรรคการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และอยากได้คนที่เป็นที่ยอมรับ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การโหวตเลือกประธานสภา พรรคพลังประชารัฐมีมติแล้วหรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า เท่าที่ทราบวันนี้เราต้องรอพรรคการเมืองเสียงข้างมากก่อน เพราะการโหวตในสภา คนที่มีเสียงข้างมากจะเป็นคนเสนอชื่อประธานสภา และน่าจะมีโอกาสได้เป็น จึงต้องฟังเสียงข้างมากก่อนว่าเขาจะตกลงกันอย่างไร แล้วเราจึงมาคุยกันว่าเราจะเสนอใครให้มีการแข่งขัน โดยปกติพรรคทั้งสองฝั่งก็จะมีการส่งชื่อมาเพื่อแข่งกันในสภา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกรณีที่พรรคก้าวไกลเสนอชื่อ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก ชิงตำแหน่งประธานสภา ทั้งที่อายุยังน้อยและเป็น ส.ส. สมัยที่สอง ชัยวุฒิกล่าวว่า อย่าให้ตนตอบเลยดีกว่า ตนขอก้าวข้ามความขัดแย้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สเปกประธานสภาในอุดมคติของตนเองเป็นอย่างไร ชัยวุฒิกล่าวว่า อย่างที่บอกต้องเป็นที่ยอมรับของ ส.ส. และสามารถทำงานร่วมได้กับทุกคน เพราะบรรยากาศการเมืองตอนนี้ถ้ามีความขัดแย้งกันมากหรือไม่เป็นที่ยอมรับ ก็เชื่อว่าบรรยากาศคงจะไม่ดี เพราะตำแหน่งประธานสภาต้องควบคุมการประชุมและควบคุมการทำงานของสภาให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกรอให้พรรคเสียงข้างมากเสนอชื่อก่อน แล้วพรรคเสียงข้างน้อยเสนอชื่อนั้น แสดงว่าจะเสนอชื่อประธานสภาแข่งใช่หรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความคิดส่วนตัว โดยหลักการเวลามีการโหวตเลือกประธานสภา จะมีการเสนอชื่อในฝั่งพรรคเสียงข้างมากและพรรคอีกฝ่ายหนึ่งในเสียงข้างน้อยมาโหวตแข่งกันซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วัยวุฒิมีส่วนสำคัญหรือไม่ในเรื่องตำแหน่งประธานสภา ชัยวุฒิกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเรื่องอายุและประสบการณ์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องพิจารณาด้วย แต่หลักการสำคัญที่สุด อยากได้คนที่สามารถประสานงานกับทุกฝ่ายได้ เพื่อทำให้บรรยากาศในการประชุมเดินหน้าไปได้ เพราะประธานสภาไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง คือประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อทำให้งานสภาเดินหน้า ไม่ใช่ทำงานเพื่อสนองนโยบายพรรคใดพรรคหนึ่ง ตนจำได้ว่าหลายคนพอเป็นประธานสภาต้องลดบทบาททางการเมืองลง เพราะต้องเป็นประธานของทุกคนในที่ประชุม จึงฝากเรื่องนี้ไว้เป็นข้อคิด เราต้องเลือกคนที่ทำให้สภาเดินหน้าไปได้ อย่าให้มันขัดแย้งกันดีกว่า
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายเสียงข้างน้อยมีการพูดถึงชื่อประธานสภาแล้วหรือยัง ชัยวุฒิกล่าวว่า เชื่อว่ามีการพูดคุยกันแล้วภายในของแต่ละพรรค และจะมาประชุมร่วมกันเพื่อมีมติว่ากลุ่มพวกเราจะเสนอใคร ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี ต้องรอดูว่าจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหรือไม่ แต่เชื่อว่าจะทราบในวันโหวต ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็น่าเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปในวันปฐมนิเทศ ส.ส. ในวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคมนี้
