วันนี้ (20 กันยายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ชี้แจงอำนาจหน้าที่การดูแลว่าไม่ได้ครอบคลุมถึงกรณีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D
ชัยวุฒิกล่าวว่า จากประเด็นที่ทาง ก.ล.ต. ชี้แจงว่าไม่ใช่อำนาจหน้าที่ที่จะกำกับดูแลบริษัทที่มาระดมทุนจากประชาชนโดยไม่ขออนุญาต ส่วนตัวเมื่อฟังรู้สึกเสียใจ เพราะรู้สึกว่ามันต้องมีหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ เพราะถ้าหากปล่อยให้บริษัทตั้งขึ้นมาและสร้างกุศโลบายหลอกประชาชนร่วมลงทุน ไม่ว่าจะเป็นผ่านเครือข่ายแชร์ลูกโซ่หรือโซเชียลมีเดียมูลค่าหลายพันล้านบาท การหลอกลวงเหล่านี้มุ่งทำให้ประชาชนเสียหาย
“จากนี้ผมจะนัดประชุมคณะกรรมการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อพูดคุยว่าถ้าเกิดช่องโหว่ขึ้นมาจริงๆ มีเอกชนเปิดบริษัทและหลอกลวงให้ประชาชนมาลงทุนจนสำเร็จ แสดงว่ากฎหมายไทยไม่ทันสมัยต้องมีการปรับปรุง ผมอยากจะปิดช่องโหว่เหล่านั้น ซึ่งอาจจะหมายถึงการเพิ่มอำนาจให้กับดีอีเอส” ชัยวุฒิกล่าว
ชัยวุฒิกล่าวต่ออีกว่า ถ้าเรื่องนี้ ก.ล.ต. ไม่ทำ ตนจะทำเอง แต่ก็ต้องเพิ่มอำนาจให้ตนเพื่อให้สามารถแก้กฎหมายได้ เช่น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ แต่ทั้งนี้ตนยังขอยืนยันว่าทาง ก.ล.ต. เองจะต้องเข้าไปกำกับดูแลการลงทุนของพี่น้องประชาชน การจะเปิดบริษัทระดมทุนจากประชาชนจะต้องมีการขึ้นทะเบียน
ฉะนั้นหากมีการเปิดจริงและมีประชาชนพบเห็นความผิดปกติ ก.ล.ต. ก็จะต้องดูแลเตือนประชาชน ทำงานเชิงรุกว่าการทำบริษัทแบบนี้เป็นการหลอกลวงประชาชน ไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าไม่ทำก็จำเป็นต้องหาหน่วยงานอื่นมาทำ