วันนี้ (1 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเรียกประชุม สส. พรรคก้าวไกลด่วนในวันนี้ว่า ภายหลังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พรรคก็ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน และจะมีการหารือการทำงานของพรรคหลังจากนี้ โดยการทำงานของ สส. ยังคงเป็นไปตามปกติ ซึ่งจากการฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้เรายังไม่ได้มีการทำความเข้าใจกัน จึงจะต้องมีการนัดประชุมกันวันนี้ ก่อนที่จะมีการแยกย้ายกันของ สส. กลับไปจังหวัดของตนเอง
สำหรับการลบนโยบายหาเสียงเกี่ยวกับมาตรา 112 ออกจากเว็บไซต์ของพรรคนั้น เนื่องจากฝ่ายกฎหมายเห็นว่าเป็นประเด็นที่สำคัญที่ศาลรัฐธรรมนูญหยิบขึ้นมาวินิจฉัยด้วย การที่ยังมีนโยบายเรื่องนี้อยู่บนเว็บไซต์ แล้วนำไปเป็นบทสรุปเรื่องการล้มล้างการปกครอง ซึ่งจริงๆ เราไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นหรือสาระสำคัญ
ทั้งนี้ หากยังมีการพูดถึงเรื่องการแก้ไข ม.112 จาก สส. ในพรรคจะทำอย่างไร ชัยธวัชกล่าวว่า ศาลไม่ได้ระบุว่าจะไม่สามารถยื่นแก้ไข ม.112 ต่อสภาไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หาก 44 สส. พรรคก้าวไกล ถูกตรวจสอบจริยธรรมโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งหากมีความผิดจริงอาจโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตนั้น ชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องจริยธรรมเป็นคนละเรื่องกันกับเรื่องการยุบพรรค เป็นคนละกระบวนการกัน และน่าจะใช้เวลามากกว่าเรื่องคดีร้องยุบพรรค ซึ่งในคดีจริยธรรมอาจจะไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาล ซึ่งฝ่ายกฎหมายได้เตรียมต่อสู้คดีในเรื่องจริยธรรมอยู่แล้ว เพียงแค่รอคำวินิจฉัยตัวเต็มที่มีรายละเอียดทางกฎหมายอยู่
ส่วนกรณีที่ สนธิญา สวัสดี จะเข้ายื่นให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบจริยธรรม 44 สส. นั้น ชัยธวัชกล่าวว่า ไม่ว่าจะโดนร้องเรื่องใด สิ่งที่รอคือรอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแบบตัวเต็มอยู่ เนื่องจากมีความสำคัญในทางกฎหมาย
ส่วนจะมีการร้องต่อองค์กรนานาชาติในกรณีละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานหรือไม่นั้น ชัยธวัชกล่าวว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เนื่องจากกลไกตรวจสอบอำนาจตุลาการของไทยยังมีข้อจำกัดอยู่ ซึ่งอาจจะไม่ชัดเจนเทียบเท่ากับสหภาพยุโรป หากอยู่ในสหภาพยุโรปแน่นอนว่าคำวินิจฉัยของศาลนี้ไม่สามารถบังคับใช้ได้แน่นอน เพราะถือเป็นการละเมิดเสรีภาพขั้นพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน ศาลไม่สามารถห้ามเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากท้ายที่สุดพรรคก้าวไกลถูกยุบ ได้มีสัญญาใจกับ สส. หรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่า “ผมไม่รู้นะ เราเห็นคราวที่แล้วคนที่ออกจากพรรคก้าวไกลไปสอบตกหมด คนที่อยู่กับเราสามารถกลับเข้ามาได้หมด ผมไม่สนใจ ผมสนใจเพียงการทำงานของเราว่าจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างไร เพราะการตัดสินใจอยู่ที่ประชาชน”
หากถูกยุบแกนนำพรรคส่วนใหญ่เป็นกรรมการบริหารพรรคก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนั้น ชัยธวัชกล่าวว่า ขออย่าเพิ่งพูดกันเลย สมัยอนาคตใหม่ทุกคนก็เป็นห่วง แต่เราก็เติบโตขึ้น “สำคัญคือยังไม่ถูกยุบ ผมยังอยู่ ใจเย็นๆ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ายิ่งยุบยิ่งใหญ่ขึ้นใช่หรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้นเลย หากพูดเช่นนั้นจะกลายเป็นว่ายอมรับว่าการยุบพรรคเป็นเรื่องปกติที่น่ายินดี