วันนี้ (5 ตุลาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแผนการรับมือสถานการณ์น้ำของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ช่วงระยะนี้ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนเริ่มแผ่ปกคลุมลงมาประเทศไทย ทำให้อากาศเริ่มเย็นขึ้น และจะทำให้ร่องความกดอากาศที่ทำให้ฝนตกลดลง ฝนก็จะตกน้อยลงไปด้วย ถ้าสังเกตจะเห็นว่าลมแรงขึ้น ฝนก็จะไปเร็ว ทำให้ความกังวลเรื่องฝนลดลง
สิ่งที่กังวลอย่างเดียวตอนนี้คือ ปัญหาน้ำเหนือที่ระบายมาทั้งสองทาง ทั้งทางเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มาทางแม่น้ำเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ปล่อยมาทางแม่น้ำป่าสัก ก่อนทั้งสองส่วนมารวมกัน จากข้อมูลวานนี้ (4 ตุลาคม) พบว่า น้ำที่ระบายรวมกันอยู่ที่ 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากถึง 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีถือว่าอันตราย
ขณะนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปริมาณน้ำเต็มเขื่อนเกินความจุถึง 108% เมื่อวานนี้ปล่อยน้ำมา 800-900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในมุมของ กทม. อยากให้ระบายน้ำออกทางแม่น้ำเจ้าพระยาให้มากที่สุด 3,500-4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทียังพอรับได้ เพราะถ้าระบายไปทางฝั่งตะวันออก คลองขนาดเล็ก ประสิทธิภาพการระบายอยู่ที่ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมในพื้นที่เขตหนองจอก มีนบุรี และลาดกระบัง
ขณะเดียวกัน กทม. ก็ต้องระวังเรื่องน้ำทะเลหนุนด้วย วันนี้ช่วงเย็นตนจะลงพื้นที่ตรวจจุดฟันหลอในกรุงเทพฯ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลง
