อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) 4 คน ประสานเสียงเตือนว่า Fed ต้องมีอิสระในการกำหนดนโยบายการเงิน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก และไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของนักการเมือง มิเช่นนั้นจะทำลายตลาดการเงิน และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ
พอล วอล์กเกอร์, อลัน กรีนสแปน, เบน เบอร์นันกี และ เจเน็ต เยลเลน ร่วมเขียนบทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal เรียกร้องให้ Fed คงความเป็นอิสระในการตัดสินใจกำหนดนโยบายการเงิน โดยไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของนักการเมืองกลุ่มเล็กๆ
อดีตประธาน Fed ทั้งสี่ไม่ได้เอ่ยชื่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยตรง แต่คาดว่า มีจุดประสงค์เพื่อกระทบทรัมป์ เพราะที่ผ่านมาเขามักวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed คนปัจจุบันที่ทรัมป์เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งแทนเยลเลน
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาง (FOMC) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความเคลือบแคลงให้กับนักเศรษฐศาสตร์บางส่วน เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งดีอยู่แล้ว และอัตราการว่างงานก็อยู่ในระดับที่ต่ำมาก
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่เห็นด้วยที่ Fed ส่งสัญญาณว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยตามวงจรอย่างต่อเนื่อง เพราะเขามองว่า Fed ควรลดดอกเบี้ยมากกว่านี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ทรัมป์อาจพิจารณาถอดพาวเวลล์ออกจากตำแหน่งประธาน Fed
“เรายืนหยัดในความเชื่อมั่นว่า Fed และประธาน Fed ต้องดำเนินนโยบายอย่างอิสระบนพื้นฐานผลประโยชน์ของเศรษฐกิจ โดยปราศจากแรงกดดันทางการเมืองในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องไม่มีการข่มขู่ลดตำแหน่งหรือถอดถอนผู้นำ Fed ด้วยเหตุผลทางการเมือง” กลุ่มอดีตประธาน Fed ระบุในบทความ
พวกเขายังเตือนว่า เศรษฐกิจอาจได้รับความเสียหาย หากธนาคารกลางถูกบีบให้ตอบสนองนโยบายการเมืองระยะสั้น แทนที่จะกำหนดนโยบายบนพื้นฐานข้อมูลเศรษฐกิจและเป้าหมายนโยบายระยะยาว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
