วันนี้ (20 กรกฎาคม) บริเวณลานกิจกรรมหน้าอาคารรัฐสภา เป็นวันที่สองของการจัดกิจกรรม ‘แคมป์ปิ้งฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจประยุทธ์’ โดยกลุ่มแนวร่วมราษฎรมีกิจกรรมสภากาแฟ พูดคุยในหัวข้อ ‘คุณภาพชีวิตประชาชนภายใต้รัฐบาลล้มเหลว’ โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่มนาบอน, บางกลอย, P-Move, สหภาพคนทำงาน และตัวแทนจากเครือข่ายรัฐสวัสดิการ (We Fair) ที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของรัฐบาล
โดยหนึ่งในผู้ชุมนุมกล่าวว่า ในสภากาแฟได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกสภา พูดถึงการทำงาน การบริหารงาน รวมถึงการใช้งบประมาณของกระทรวงต่างๆ ในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงนโยบายการอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินในไทย โดยชี้ว่าเป็นการขายชาติ
ทั้งนี้ ช่วงท้ายของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผู้ร่วมชุมนุมกล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภานี้ ไม่มีใครไว้วางใจรัฐบาล และมองว่าหมดเวลาการบริหารงานของรัฐบาลแล้ว พร้อมฝากถึงประชาชนในการพิจารณาการเลือกตั้งครั้งหน้า กับคณะรัฐมนตรีชุดนี้ด้วย
โดยแกนนำผู้ชุมนุมได้ปราศรัยเชิญชวนให้ผู้ชุมนุมมาร่วมลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในจุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมจัดเตรียมเป็นจุดสภาประชาชน โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นการสร้างประชาธิปไตยทางตรงให้กับคนนอกสภาร่วมโหวตได้ และเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ตระหนักว่า ส.ส. ทั้งหมดเป็นตัวแทนของประชาชน
ในช่วงเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ สะท้อนถึงการแปดเปื้อนด้วยระบบที่ไม่ชอบธรรมภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล โดยผู้แสดงนำสีแดงมาทาทั้งตัว และเชิญชวนให้ผู้ที่มาร่วมงานนำสีดำมาทาทับตามส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วย