วันนี้ (19 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อกรณีแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-Map) งบประมาณ 5.7 ล้านล้านบาท อันเป็น 1 ใน 3 แกนหลัก สร้างอนาคตไทยโดยรัฐบาล ประกอบไปด้วย 1. โครงสร้างพื้นฐาน 2. อุตสาหกรรม และ 3. การธนาคาร
โดยสุรเชษฐ์ระบุว่า หากพิจารณาในรายละเอียดของโครงการ จะพบว่าเป็นโครงการที่ไม่มีความคุ้มค่า และมีความไม่ชอบมาพากลหลายประการ ตั้งแต่ลักษณะของโครงการที่เป็นการก่อสร้างทั้งระบบรถไฟทางคู่ 6,241 กิโลเมตร มอเตอร์เวย์ 6,701 กิโลเมตร และรถไฟความเร็วสูง 2,728 กิโลเมตร อยู่บนเส้นทางเดียวกัน ที่จะทำให้เกิดการตัดผู้ใช้กันเอง และจะทำให้การใช้งานเป็นไปโดยไม่เต็มประสิทธิภาพในทุกระบบและทุกเส้นทาง
สุรเชษฐ์กล่าวต่ออีกว่า การก่อสร้างในลักษณะนี้จะทำให้เกิดความไม่คุ้มทุน กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่เชื่อมระหว่างเมืองที่มากเกินความจำเป็น นำไปสู่ภาระทางการคลังและงบประมาณที่จะบานปลาย ทั้งระหว่างการก่อสร้างจริง และค่าบริหารจัดการและบำรุงรักษา และยังมีแนวโน้มที่จะเจอกับ ‘โรคเลื่อน’ เหมือนอย่าง Corridor โคราช ที่รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และทางรถไฟความเร็วสูง ไม่มีอะไรก่อสร้างได้แล้วเสร็จอย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้เลยแม้แต่อย่างเดียว
ซึ่งในที่สุด ภาระทั้งหมดนี้จะไปตกอยู่ที่ประชาชน ทั้งในรูปแบบของเงินภาษี และค่าโดยสารที่จะแพงอย่างมหาศาล เพื่อชดเชยการใช้งานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะการที่ไม่มีเอกชนรายใดกล้าพอจะเอาเงินจำนวนมหาศาลมาลงทุนในโครงการที่มีความไม่คุ้มค่าอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้
สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชอบมาพากลในการคัดเลือกโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่มีศักยภาพ หรือช่วงที่จะมีการก่อสร้างเป็นลำดับต้นๆ โดยหนึ่งในนั้นมีโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ช่วงนครราชสีมา-อุบลราชธานี ซึ่งมีบุรีรัมย์เป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะมีการสร้างมอเตอร์เวย์ตัดผ่านด้วย
“นี่คือโครงการที่จะก่อหนี้มหาศาลต่อไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ช่วงต้นของโครงการจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ทั้งค่าเวนคืน งานโยธา งานระบบ แล้วต่อมาก็จะมีรายจ่ายเพิ่มในการบริหารจัดการและซ่อมบำรุงรายปี ที่ในที่สุดจะทำให้รายรับไม่พอกับรายจ่าย เพราะคนจะใช้ไม่เยอะ ที่จะให้เอกชนมาร่วมลงทุนก็จะไม่เกิด เพราะเป็นโครงการที่ไม่คุ้มค่า คนที่อนุมัติและผู้รับเหมาที่ได้สัมปทานยิ้ม แต่คนที่เศร้าคือประชาชนผู้ต้องจ่ายภาษี” สุรเชษฐ์กล่าว
สุรเชษฐ์กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า หากเป็นพรรคก้าวไกล จะไม่มีทางทำโครงการในลักษณะนี้ แต่จะต้องกระจายโครงการออกไป เลือกพัฒนาระบบอย่างเฉพาะเจาะจงในแต่ละพื้นที่ เน้นพัฒนารถไฟทางคู่ให้คลุมทุกพื้นที่มากขึ้น โดยไม่ทำมอเตอร์เวย์มาวิ่งขนานให้แย่งผู้โดยสารกัน และนำงบประมาณที่เหลือไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมือง กระจายงบประมาณให้ส่วนท้องถิ่นไปพัฒนา ไม่ใช่การสร้างแต่เส้นเลือดใหญ่ระหว่างเมืองแบบซ้ำซ้อน อย่างที่ MR-MAP จะทำเท่านั้น