วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการอภิปรายในศึกซักฟอก มาตรา 152 วานนี้ (15 กุมภาพันธ์) ว่าเป็นการอภิปรายที่เดือดมาก และมีข้อมูลหลายอย่าง ประชาชนหลายคนและพรรคการเมืองต่างๆ ได้เห็นความจริงมากขึ้น พวกเขาเข้ามาชื่นชมในเรื่องของการอภิปราย ซึ่ง ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ชื่นชมตนในเฟซบุ๊ก สิ่งที่ตนอภิปรายทุกคนเห็นและช่วยกันยืนยันว่าเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา จึงขอเรียกว่า ‘ไทยเทา’ กำลังเป็นปัญหาของประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มเมียนมาและทุนจีนสีเทาที่พยายามเข้ามาในประเทศ และยังมีกลุ่มทุนจีนบางกลุ่มมาในรัฐสภา มาเยี่ยมกรรมาธิการคาสิโน และอาจเกี่ยวข้องกับการค้าอวัยวะเถื่อน
“ในบันทึกชวเลขที่ได้มาจากสภา มีความพยายามเซ็นเซอร์ชื่อของผู้เข้าร่วมประชุม แต่พรรคก้าวไกลมี ส.ส. ในกรรมาธิการชุดนี้ จึงได้ข้อมูล ตนเห็นทุนสีเทาที่นำโดยไทยเทาพาเข้ามาเกี่ยวกับรัฐสภา เกี่ยวกับอำนาจที่ประชาชนเลือกเข้ามา ความเกี่ยวพันชัดเจนว่าเราไม่สามารถกำจัดได้ เพราะมีผู้มีอำนาจ แม้ตำรวจนครบาลทำหน้าที่ได้ดี สุดท้ายโดนย้าย” รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์กล่าวอีกว่า การอภิปรายครั้งนี้ไม่ใช่การเปิดโปง และอยากจะสดุดีพลเมืองดีอย่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่พยายามปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน หากเราไม่มีชูวิทย์หรือตำรวจน้ำดีที่พยายามนำข้อมูลต่างๆ มาให้ เราไม่สามารถอธิบายได้ และการเปิดโปงครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้น ตนจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ จะนำข้อมูลทั้งหมดไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานอัยการสูงสุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการชี้แจงของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเพียงพอหรือไม่ รังสิมันต์กล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงเหมือนไม่ชี้แจง แม้ท่านจะชี้แจงไม่ละเอียดและไม่ตรงประเด็น อย่างเรื่องของ ตู้ห่าว-ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ที่มีการพาดพิงนักการเมืองบางพรรค ท่านต้องจัดการ เพราะจะทำให้สังคมเห็นว่าท่านผู้มีอำนาจที่สุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถจัดการได้ แต่คนใกล้ชิดของนายกฯ ไม่ว่าจะหลานชาย, ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หรือ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อดีตพี่เลิฟ ต้องตรวจสอบว่ามีการเกี่ยวพันหรือไม่ ขอให้มีการตรวจสอบก่อน อย่าทำตัวเหนือปัญหา ถ้าทำตัวแบบนี้ประชาชนจะไม่เชื่อถือ
ในส่วนของ อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ข้อมูลที่เปิดโปง ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่มีพยานหลักฐาน แต่การที่ตนเองอภิปรายเป็นชั่วโมง มีการนำหลักฐานแชตข้อมูลยืนยันว่ามี ส.ว. เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหลังปี 2562 ต้องถามว่าท่านทำอะไรอยู่ ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติอาจจะมาจากการฟอกเงินธุรกิจสีเทา อาจเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด เราต้องเรียกว่า ‘ประยุทธ์ เอสโกบาร์’
“พล.อ. ประยุทธ์ ไม่คิดที่จะปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง วันนี้ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่จงใจให้ตนเองได้รับประโยชน์สูงสุด ยาเสพติดจะคู่กับการฟอกเงิน และคิดว่า ส.ว. จะเกี่ยวข้องเพียงคนเดียวหรือไม่” รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่า ตนเหนื่อยใจกับตำรวจ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่ทำอะไร ดีแต่ไหว้พระ สิ่งที่ตนอภิปรายที่มีหลักฐานต่างๆ จะแนบข้อมูลส่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แม้ ส.ว. อุปกิต มีการคุ้มกันอยู่ แต่หลังจบสมัยการประชุมการคุ้มกันจะหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งดำเนินการจับกุมทันที ร.อ. ธรรมนัส หรือ พล.อ. ประวิตร จะเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องเร่งดำเนินการจัดการ หากเป็นนักการเมือง ขั้นต่ำต้องสอบสวนก่อน หลังเลือกตั้งรัฐบาลเปลี่ยนไป ไม่ต้องเกรงกลัว ดังนั้นนายกฯ ต้องเคารพกฎหมายให้ประชาชน กฎหมายจะศักดิ์สิทธิ์เมื่อผู้นำปฏิบัติตาม