วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายของ รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ธนกรกล่าวว่า เรื่องที่กล่าวหา พล.อ. ประยุทธ์นั้นไม่จริง ตนได้ชมการอภิปรายจากบ้าน ก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร ข้อมูลต่างๆ เป็นเรื่องที่ พล.อ. ประยุทธ์ทราบอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้สั่งการให้มีการดำเนินคดีกับทุกฝ่าย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รายงาน พล.อ. ประยุทธ์มาโดยตลอด วันนี้ขบวนการทุนจีนสีเทาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ไม่มีการช่วยเหลือปกป้องใครทั้งนั้น ซึ่งสิ่งที่รังสิมันต์ได้อภิปรายไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเชื่อมโยงเรื่องที่ดินของที่ทําการพรรครวมไทยสร้างชาติกับ ‘ส.ว. ทรงเอ’ หรือ ส.ว. ‘อ.’ จะมีหลักฐานเพื่อชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร ธนกรกล่าวว่า คิดว่าเรื่องนี้เป็นการกล่าวหาที่ไร้ข้อมูลมาก ตนทราบมาก่อนว่าที่ดินของพรรครวมไทยสร้างชาติเช่าถูกต้องตามกฎหมาย อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีชื่ออยู่ตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรแล้ว พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ทราบอยู่แล้ว เราไม่ไปเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้อย่างแน่นอน เป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม
“พฤติกรรมแบบนี้ผมคิดว่ามันไม่ใช่แนวทางของคนรุ่นใหม่ ควรจะเลิกได้แล้ว การชี้แจงต่างๆ ต้องเอาข้อมูลทั้งหมดมาชี้แจงต่อประชาชน ไม่ใช่ตัดเฉพาะช่วงสั้นๆ แค่บางท่อนบางตอนมาบิดเบือน เผยแพร่สู่โซเชียลมีเดีย ผมคิดว่าเป็นการเมืองที่ตรรกะวิบัติที่สุด” ธนกรกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามยํ้าว่า ที่ดินที่เคยเป็นของ ส.ว. ถูกเปลี่ยนมือแล้วใช่หรือไม่ ธนกรกล่าวว่า เรื่องนี้มีการตรวจสอบและทราบอยู่แล้ว และคิดไว้แล้วว่าเรื่องนี้คงมีการนำมาอภิปรายอย่างเบาๆ ไม่ได้หนักหน่วง ตรงนี้ชี้แจงได้ สื่อมวลชนก็ตรวจสอบได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย หากเป็นเช่นนี้พรรคก้าวไกลก็ผิดด้วยหรือไม่ เพราะเช่าที่ของบริษัทไทยซัมมิทเหมือนกัน ซึ่งมีคดีที่หนักกว่านี้ บางคดีศาลตัดสินไปแล้ว ตนไม่อยากกล่าวหา เพราะเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลไม่มีพฤติกรรมแบบนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประยุทธ์ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ธนกรกล่าวว่า ไม่ได้พูดถึง แต่ได้มีการพูดคุยกับตนว่าการอภิปรายเป็นอย่างไรบ้าง ตนเห็นตรงกับ พล.อ. ประยุทธ์ ว่าต้องขอบคุณทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่มีการอภิปรายกันอย่างเต็มที่ ไม่ใช้ถ้อยคำที่สร้างความเสียหายรุนแรงอะไร แต่เสียนิดเดียว ข้อมูลต่างๆ เป็นข้อมูลเก่าที่ประชาชนทราบอยู่แล้ว เคยอภิปรายแล้วก็เอามาอภิปรายอีก เข้าใจว่าคงนําไปหาเสียงในการเลือกตั้ง ที่บอกว่า 8 ปีล้มเหลว มองว่าเป็นการมองที่ใจมืดบอดที่สุด เห็นอยู่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น พล.อ. ประยุทธ์ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด ฉะนั้นสิ่งที่ฝ่ายค้านพูดถือว่าตรงกันข้าม
