วันนี้ (3 กันยายน) สมคิด เชื้อคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงแรงงาน ว่าตนเองเป็นลูกชาวนาธรรมดา มาอยู่ตรงนี้ก็ต้องพูดถึงความเดือดร้อนทั่วไปของพี่น้องประชาชน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.กระทรวงแรงงานนั้น เนื่องจากท่านเป็นผู้ดูแลเรื่องแรงงานทั้งระบบคนอีสาน คนเหนือ อย่างไรก็ต้องไปบ้านท่านรัฐมนตรีที่จังหวัดชลบุรี โดยแรงงานไทยและต่างด้าวอยู่ที่ชลบุรีจำนวนมาก
.
ตอนท่านรับตำแหน่งใหม่ๆ ผมก็ดีใจ เพราะท่านรัฐมนตรีเคยบอกว่าตนมาจากจับกัง มาจากเรือ ตนก็ดีใจว่าดีแล้วที่รัฐมนตรีมาจากแรงงานจะได้รู้ว่ามันลำบากอย่างไร จะได้รู้ว่าเวลาหิวข้าวมันเป็นอย่างไร เพราะรัฐมนตรีบางท่านในรัฐบาลไม่รู้จักคำว่าหิว
สมคิดอภิปรายถึงสุชาติอีกว่า ในภาคตะวันออกท่านมีกิจการเยอะแยะ จนหลายคนบอกว่าท่านเป็นยักษ์ใหญ่ผู้รับเหมาแห่งภาคตะวันออก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขายบ้านจัดสรรของท่านยิ่งใหญ่มีเงินจำนวนมาก จนกระทั่งท่านไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี เลยต้องไปโอนหุ้นให้บริษัทหลักทรัพย์ดูแลท่านและภรรยาดำเนินเรื่องนี้ ตนเลยเข้าไปดูว่าเอาหุ้นไปให้ตลาดหลักทรัพย์ดูแลอย่างไร แต่เมื่อดูจริงๆ ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของท่านอยู่ดี เรื่องนี้ต้องกล่าวถึง สิ่งหนึ่งที่แรงงานคาดหวังในตัวท่านสุชาติ เพราะท่านยังทำงานในระบบอยู่ ท่านต้องใช้แรงงานต่างชาติต่างๆ เขาเลยคาดหวัง
“แต่ผมบอกอีกด้านหนึ่งว่า ท่านเป็นผู้ประกอบการ ท่านเปรียบเสมือนนายจ้าง เมื่อลูกจ้างเห็นนายจ้างมันแหยงทุกที เพราะมันน้อยนักที่นายจ้างจะไม่เอาเปรียบลูกจ้าง พอมาเป็นรัฐมนตรีแรงงาน ท่านจะต้องทำใจเป็นกลาง วันนี้ท่านทำกิจการของท่าน ท่านมีประโยชน์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโครงการต่างๆ เพราะการช่วยเหลือผู้ประกอบการต่างๆ ก็ได้ด้วยกัน เพราะท่านประกอบกิจการ” สมคิดกล่าว
สมคิดกล่าวต่อไปว่า เรื่องลูกจ้างที่เขาไม่มั่นใจ เพราะเขาบอกว่านายจ้างย่อมเอาเปรียบลูกจ้าง เช่น ค่าแรงขั้นต่ำท่านรัฐมนตรีเข้ามาปีแรก ตนก็ดีใจเพราะรัฐมนตรีมาจากพรรคใหญ่ ก็คงจะทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ท่านขึ้นเวทีและท่านก็บอกทุกเวทีว่าพลังประชารัฐเป็นรัฐบาลเมื่อไรจะจ่ายค่าแรงเพิ่มเป็น 425 บาท และนโยบายอีกหลายเรื่อง เช่น จบปริญญาตรีได้เงินเดือน 20,000 บาท จบประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จบอาชีวะได้ 18,000 บาท เพราะเป็นรัฐบาลมาเกือบ 1 ปี อยู่ที่ไหนทั้ง 425 บาท 20,000 บาท 18,000 บาท ทำไมไม่ทำ ท่านจะอ้างไม่ได้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีหลายพรรค มันอยู่ที่ท่านจะทำ การขึ้นค่าแรงมันไม่ได้ส่งผลมากมายต่อต้นทุนสินค้า ในเมื่อท่านไปหาเสียงไว้ท่านก็ไม่ทำ คนที่แต่งตั้งท่าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรับรู้ด้วย ตนถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน เรื่องแบบนี้ท่านไปทำสัญญาประชาคมไว้ แล้วท่านไม่ทำจนถึงบัดนี้
ตนจะไปยื่นเรื่องนี้ร้องทุกข์กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งสุชาติ และ พล.อ. ประยุทธ์ เพราะท่านโกหกหลอกลวงประชาชนทั่วประเทศ ท่านต้องตอบมาว่าทำไมถึงทำไม่ได้ จะตอบอย่างไรก็ได้ ตอบไม่ตรงคำถามตนก็รับได้ แต่อย่าเอาปลัดกระทรวงและอธิบดีมาตอบก็แล้วกัน เพราะบางกระทรวงเขาเอาปลัดและอธิบดีมาตอบ ซึ่งเมื่ออ่านญัตติยังเห็นเลยว่าฝ่ายค้านไม่ได้ยื่นอภิปรายปลัดกระทรวงและอธิบดี ท่านต้องชี้แจงเรื่องนี้
“เรื่องใหญ่ๆ ท่านต้องทำ อย่าไปทำเรื่องเล็กเลย เรื่องงานกิจจัตรประจำวันถนัดกันนัก งานตัดริบบิ้น ไม่ต้องทำก็ได้ ท่านขยันทำงานก็จริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเนื้องานมันไม่เห็น พี่น้องแรงงานเขาหวังจากเนื้องานของท่าน ไม่ได้หวังให้ท่านออกสื่อ วันก่อนตนก็เพิ่งนึกออกว่ากระทรวงแรงงานมีรัฐมนตรีด้วย ตนเกือบลืมไปเลยว่าท่านมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรายงานอีกด้วย ท่านทำงานคนเดียวได้อย่างไร ทำไมไม่กำกับ อย่าปล่อยให้เข้ามูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อทุกวัน ท่านต้องเอามาทำ เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน” สมคิดกล่าว
สมคิดยังระบุอีกว่า ท่านสุชาติยังได้รับมอบหมายแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นกรรมการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ที่ท่านไปนั่งเป็นบอร์ดในนั้น ท่านต้องรับรู้ทุกเรื่อง และนายกรัฐมนตรีก็ต้องรู้ นอกจากนั้น กระทรวงแรงงานยังได้ตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โรคระบาดโควิดของกระทรวงเอง ที่ท่านสามารถสั่งแรงงานได้ทั้งหมดในประเทศ ท่านจะบอกว่าตนไม่ทำหรือไม่รู้ไม่ได้
สุดท้ายปิดเมืองล็อกดาวน์ ที่ชลบุรีเป็นเมืองร้าง บ้านท่านรัฐมนตรีเป็นเมืองท่องเที่ยว รายได้ต่อปีเกือบ 3 แสนล้านบาท แพ้เพียงภูเก็ต ดังนั้น เวลาดูแลแรงงานทั้งระบบมันกระทบกระเทือนผู้ประกอบการ เรื่องแรงงานท่านก็รู้ว่าวันนี้ตกงานเท่าไร เฉพาะปีนี้ตกงานหมด ไม่มีมาตรการใดที่เข้าไปช่วยเหลือเขาได้ เรื่องนี้ท่านจะพัฒนาฝีมือแรงงานอย่างไร เข้าใจว่าไม่สามารถที่จะทำทั้งหมดได้ แต่มันต้องดีกว่านี้ จะต้องกระชับปัญหามากกว่านี้ รัฐมนตรีแรงงานไปขอเงินจากสภาพัฒน์เพื่อมาสร้างงาน เมื่อสภาพัฒน์อนุมัติมาให้ 1.9 หมื่นล้านบาท จ้างงานได้กว่า 4 แสนคน แต่ปรากฏว่ากระทรวงแรงงานกลับตัดการจ้างงานลง 50,000 คน โดยอ้างว่าติดสถานการณ์โควิด ซึ่งเรื่องนี้มันติดอยู่แล้ว มันไม่ได้หายไปจากประเทศไทย ไม่ได้หายไปจากโลก พี่น้องแรงงานบางคนแทนที่จะได้รับการช่วยเหลือบางคนกลับไม่ได้เลย บางคนตกงานทั้งระบบ
“เรื่องนี้ท่านต้องชี้แจงให้ได้ว่าลดการจ้างงานทำไม ถ้าทำอย่างนี้ก็ไร้ความสามารถตามญัตติที่ผู้นำฝ่ายค้านเสนอ และที่ผู้ประกอบการพูดกันนักว่าปี 2563 เผาหลอก ปี 2564 เผาจริง พอเอาจริงตายจริงไม่มีที่จะเผา” สมคิดกล่าวในที่สุด
