วันนี้ (1 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเป็นวันที่สอง ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ณ ห้องประชุมพระสุริยัน ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ถึงวันที่ 3 กันยายน 2564 และลงมติในวันที่ 4 กันยายน โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคยมีรัฐบาลไหนเจอสถานการณ์นี้มาก่อน เรามี Phuket Sandbox แต่ก็มีคนไปชุมนุม เหมือนไม่อยากทำให้สถานการณ์มันดีขึ้น ก็ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร รัฐบาลทำให้คนหายป่วยไปเท่าไร ดูต่างประเทศด้วยว่าเขาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ คนตายแม้เพียงคนเดียวตนก็เสียใจ อาจจะต้องขอโทษที่ต้องตายเพราะโควิด อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน สร้างความศรัทธาให้ทุกคนทำตามระเบียบ ถ้าไม่เตือนกันจะจำกัดการแพร่ระบาดได้จริงหรือ ทั้งที่ในทุกวันนี้ก็มีการฝ่าฝืนกฎมากมาย แต่ตนก็ไม่ได้อยากไปลงโทษอะไรเขาเลย
พล.อ. ประยุทธ์ยังระบุว่า วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ไทยมีอัตราการติดเชื้อ 1.77% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก และมีอัตราการเสียชีวิตที่ 0.95% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกเช่นกัน ย้ำว่าตายคนเดียวก็ไม่มีความสุข ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียแม้แต่คนเดียว หรือใครจะอยากให้เกิดขึ้นก็ไม่รู้เพื่อให้ได้มากล่าวในสภา จนทำให้ระบบสาธารณสุขเสียหาย ทั้งที่แพทย์กับพยาบาลเขาก็เหนื่อยและลำบากกว่าเราด้วยซ้ำ อยากย้ำว่าทุกคนก็ต้องอดทน รัฐก็พยายามชดเชยอยู่แล้ว แนะให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างพอเพียงในระยะนี้ไปก่อน มีหลายคนก็เปลี่ยนไปเป็นค้าขายออกไลน์ จะเห็นได้ว่ามีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นตั้งเยอะ จะให้ทำยังไงอีกเพราะตนก็ต้องดูแลคนในประเทศตั้ง 30-40 กว่าล้าน
“ภาครัฐทำให้เศรษฐกิจไม่ล้มละลาย แต่อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายในระยะนี้ต้องระมัดระวังอย่างถึงที่สุด ตนก็ทำทั้งการเยียวยา แจกจ่ายคนละครึ่ง มีรายงานจากเวิลด์แบงก์และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ไม่รู้ว่าท่านรู้จักกันหรือไม่ โดยตามรายงานนั้นระบุว่ามาตรการของไทยนั้นไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์และมีความโดดเด่นมาก รัฐบาลไทยได้ขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือทางสังคมแบบก้าวกระโดดด้วย จาก 0.8% ของ GDP ในปี 2562 และเพิ่มเป็น 3.2% ในปี 2563 โดยระดับหนี้สาธารณะของไทยยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ไม่น่าห่วง มันก็ยังน้อยเพราะความเหลื่อมล้ำมันมาก เขาชมเรามาก็ฟังเขาบ้างสิ คิดเองพูดเองก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เราอยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ รู้กันบ้างไหม เอาเรื่องนี้มาพูดบ้าง” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว และระบุอีกว่า
รัฐบาลเร่งเยียวยาประชาชนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การที่เราพึ่งภาคบริการทำให้เราได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น แต่การเยียวยานั้นเราสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก แม้รัฐบาลจะต้องกู้เงินมา แต่ก็ยังต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง จะมากล่าวหากันว่าตนแก้ปัญหาอย่างไม่มีประสิทธิภาพได้อย่างไร ต้องฟังต่างประเทศที่เขาว่าบ้าง เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก รัฐบาลไม่ได้ใช้เงินไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชน การดูแลด้านสาธารณสุขเป็นหลัก และอีกหลายโครงการ 8.5 แสนล้านบาท คือปริมาณเงินที่เข้ากระเป๋าของประชาชน ในประวัติศาสตร์ไทยไม่มีผู้นำคนไหนช่วยประชาชนขนาดนี้ และไม่เคยมีผู้นำที่ยอมโดนด่าเรื่องการกู้เงินมากขนาดนี้โดยกู้มาเพื่อประชาชน
ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ได้ตอบข้อกล่าวอ้างจากฝ่ายค้านที่ว่าได้พินอบพิเทาเจ้าสัวว่า ตนไม่เคยพินอบพิเทานายทุน ไม่เคย ตนก็มีศักดิ์ศรีของตน ดังนั้นจึงไม่เคยพินอบพิเทาใครจริงๆ ไม่เคยเจรจานอกรอบ ไม่เคยจริงๆ ไม่ใช่นิสัยพูดอะไรกันไปเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ตนตั้งใจแล้วว่าจะไม่ฟังอะไรที่ด้อยค่า ดูถูกเหยียดหยาม และไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ อยากให้ระวังด้วย เพราะประชาชนเขาฟังอยู่ทางบ้าน
“มาพูดว่าผมรัฐประหาร มันก็ตั้งแต่ปี 2557 แล้ว ปีนี้ 2564 แล้ว ที่เรามานั่งกันได้ก็จากรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน หรือท่านจะมาจากฉบับอื่นผมก็ไม่รู้ได้ วันหน้าก็ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินแล้วกัน เตือนว่าอย่าเป็นคนเบื่อง่าย เบื่อเพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรกันหรือเปล่า ไปคิดกันด้วย ผมจะไม่พูดอะไรที่ไม่ใช่กฎหมาย ไม่มีหลักฐาน แล้วที่บอกประเทศมียาเสพติดเยอะแยะ ก็มาบอกผมสิ เขียนจ่าหน้าซองมาถึงผมเลย แล้วดูสิว่าผมจะจับมันได้ไหม เจ้าหน้าที่ไหนที่มีความผิดแล้วไม่แจ้งมามันจะรู้ไหมล่ะ คนชั่วก็มีทุกที่ ไม่ใช่มาบอกว่าองค์กรมันเสียหาย ตำรวจล้มเหลว ทุกวันนี้ประชนชนมีความสุขมากขึ้น ผมจะบอกว่า รัฐบาลเราคิดว่าถ้าทำแบบเดิมก็ได้แบบเก่า ถ้าโกหกก็ได้แบบเดิม ผมไม่เคยโกหก ผมยืนยันด้วยข้อเท็จจริง ก่อนเจ็ดปีที่แล้วเป็นยังไงอย่าลืมแล้วกัน ลืมกันง่ายเหลือเกิน” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โต้ว่า ที่ พล.อ. ประยุทธ์บอกไม่เคยโกหก ในฐานะที่ตนโดนโกหกตั้งแต่ที่ พล.อ. ประยุทธ์บอกว่าจะไม่รัฐประหารแล้ว และที่บอกว่าจะให้เขียนจดหมายไปหา อยากให้ พล.อ. ประยุทธ์มาตอบกระทู้สดในสภาเสียก่อน เพราะไม่เคยมาตอบกระทู้สดในสภาด้วยตัวเองเลย
