วันนี้ (12 กุมภาพันธ์) ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลางกล่าวว่า จากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีประชาชนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ตาม พ.ร.บ. สงเคราะห์ผู้ประสบภัย เนื่องจากการช่วยเหลือราชการฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทายาทของผู้มีสิทธิ์ดังกล่าวติดต่อที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อยื่นแบบคำขอรับความช่วยเหลือ โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือดังนี้
- กรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เหมือนข้าราชการ
- กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการทุพพลภาพ ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เหมือนข้าราชการ และได้รับเงินชดเชย ซึ่งคำนวณเป็นอัตราส่วนตามกฎกระทรวงเพิ่มเติมจากการได้รับบาดเจ็บ
- กรณีทุพพลภาพขนาดหนัก ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เหมือนข้าราชการ เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพขนาดหนัก จนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จำนวน 450,000 บาท และได้เงินดำรงชีพเดือนละ 7,500 บาท ตลอดชีวิต
- กรณีถึงแก่ความตาย ทายาทจะได้รับเงินชดเชยจำนวน 450,000 บาท และค่าจัดการศพจำนวน 45,000 บาท ทั้งนี้เงินค่าจัดการศพสามารถขออนุมัติในระดับจังหวัด โดยไม่ต้องส่งเรื่องมาที่ส่วนกลาง
- กรณีที่เข้ารับการรักษา ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เหมือนข้าราชการ และหากแพทย์มีคำสั่งให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล จะมีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยในระหว่างที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในอัตรา 500 บาทต่อวัน (คำนวณจ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว)
ขณะนี้กรมบัญชีกลางสั่งการให้สำนักงานคลังเขตและสำนักงานคลังจังหวัด เร่งประสานกับสถานีตำรวจในพื้นที่ ตรวจสอบข้อมูลผู้มีสิทธิ์และเสนอผู้ว่าการจังหวัด เพื่อส่งเรื่องมาที่คณะกรรมการสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ซึ่งจะกำหนดวันนัดประชุมและอนุมัติเงิน
โดยสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าว จะได้รับบำเหน็จบำนาญ และเงินช่วยเหลืออื่นๆ ดังนี้
- บำเหน็จตกทอด (เงินเดือนคูณเวลาราชการที่รวมทวีคูณแล้ว)
- เงินช่วยพิเศษ 3 เท่าของอัตราเงินเดือน เพื่อช่วยค่าจัดการศพ
- ทายาทของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตมีสิทธิ์ได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า