ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยภาพรวมตลาด Branded Residence ในประเทศไทยว่ายังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยมีภูเก็ตและกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลักที่น่าจับตามอง
อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ตลาด Branded Residence ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในทุกช่วงเวลาได้เป็นอย่างดี
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงดีไซน์ที่หรูหราหรือการบริการระดับโลก แต่อินไซต์ที่สำคัญคือบทบาทของผู้ประกอบการโรงแรม (Hotel Operator) ที่เข้ามาร่วมกำหนด ‘มาตรฐานคุณภาพ’ ในการพัฒนาโครงการในหลากหลายมิติ
“ลูกค้าส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ และชื่นชอบงานบริการที่มาพร้อมกับแบรนด์นั้น ๆ” อาทิตยา กล่าว โดยมาตรฐานสากลเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่ขนาดห้องพัก วัสดุอุปกรณ์ พื้นที่ส่วนกลาง ไปจนถึงระบบความปลอดภัย สุขอนามัย และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งถูกกำหนดโดยแบรนด์โรงแรมต่างๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- CG Capital จับมือ IHG เปิดตัว ‘InterContinental Residences Bangkok Asoke’ มูลค่า 5,500 ล้านบาท รับเทรนด์ ‘Branded Residences’ ที่กำลังมาแรงทั่วโลก
- Upper House ผนึก Swire Properties และ City Realty ปักหมุดถนนวิทยุ เปิด Branded Residences ฟรีโฮลด์มูลค่าหลายหมื่นล้าน รับดีมานด์อสังหาฯ Ultra-Luxury ในเอเชียโตต่อเนื่อง
มาตรฐานเหล่านี้เป็นรากฐานของงานดีไซน์ที่ต้องวางแผนอย่างพิถีพิถันตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ใช่สิ่งที่นำมาเสริมในภายหลัง คุณสมบัตินี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่พักอาศัยได้อย่างยั่งยืน และดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อจากหลากหลายประเทศทั่วโลกที่มั่นใจว่าจะได้รับมาตรฐานเดียวกัน
ในภาพรวมระดับโลก ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) กำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสำคัญของตลาด Branded Residence ปัจจุบัน APAC มีสัดส่วนโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว 24% ตามหลังอเมริกาเหนือที่มี 34% อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง (Pipeline) เข้าไปด้วย คาดการณ์ว่าทั้งสองภูมิภาคจะมีส่วนแบ่งตลาดที่เท่ากันที่ 23% สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งของเอเชียแปซิฟิก
สำหรับประเทศไทย ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด Branded Residence ของเอเชียแปซิฟิกแล้ว โดยครองตำแหน่งประเทศที่มีโครงการที่สร้างแล้วเสร็จมากที่สุดในภูมิภาค ด้วยจำนวนกว่า 40 โครงการ
แม้ว่าเวียดนามจะมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวนมาก แต่เมื่อรวมโครงการที่สร้างแล้วเสร็จและที่กำลังดำเนินการทั้งหมด ประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีจำนวน Branded Residence มากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก
เมื่อพิจารณาในระดับเมือง ภูเก็ตและกรุงเทพฯ ถือเป็นตลาดที่น่าจับตามอง โดยภูเก็ตติดอันดับเมืองที่มี Branded Residence มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก และกรุงเทพฯ อยู่ที่อันดับ 7
ข้อมูลจากซีบีอาร์อีในครึ่งแรกของปี 2568 พบนัยสำคัญเกี่ยวกับสัดส่วนของตลาด โดยในภูเก็ต Branded Residence คิดเป็น 10% ของจำนวนยูนิตคอนโดมิเนียมทั้งหมด ขณะที่ในกรุงเทพฯ มีสัดส่วนเพียง 1% ของจำนวนยูนิตคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองทั้งหมด
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าที่พักอาศัยประเภทนี้ยังมีจำนวนจำกัด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัว มาตรฐานระดับโลก และทำเลที่ตั้งระดับไพร์มโลเคชั่น ทำให้ Branded Residence ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาทรัพย์สินที่มีเอกลักษณ์และความมั่นคง
ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ตลาดไทยเติบโตมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก มาจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก ประกอบกับความพร้อมของระบบโครงสร้างพื้นฐาน มาตรฐานระบบบริการสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงชื่อเสียงด้านการบริการ คุณภาพชีวิตที่ดี และความคุ้มค่าในการลงทุน
ในแง่ของการลงทุน คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ที่บริหารโดยแบรนด์ระดับโลกถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะโครงการที่ได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ถาวร (Freehold)
ข้อมูลการซื้อขายของ ซีบีอาร์อี ชี้ให้เห็นว่า ที่พักอาศัยประเภท Branded Residence ในทำเลเดียวกัน สามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Gross Yield) ได้สูงกว่าโครงการทั่วไปที่ไม่ใช่ Branded Residence ถึง 50%-80% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดกลุ่มนี้
ภาพ: Hessel Jean Alota / Shutterstock
