×

เจ็บทั้งคู่! หุ้น CBG-OSP กอดคอร่วง หลัง ‘คาราบาว’ ตรึงราคาขายปลีก สวนทาง ‘โอสถสภา’ ที่พยายามปรับขึ้น

08.04.2022
  • LOADING...
หุ้น CBG-OSP

ราคาหุ้นของ 2 ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังรายใหญ่ของไทย คือ บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) และ บมจ.โอสถสภา (OSP) ร่วงลงมา 4.27% และ 6.16% ตามลำดับ โดยราคาหุ้นปิดการซื้อขายในช่วงเช้าของวันนี้ (8 เมษายน) ของ CBG อยู่ที่ 101 บาท ส่วน OSP อยู่ที่ 34.25 บาท 

 

นอกจากนี้ หุ้น OSP มีการซื้อขาย Big Lot เกิดขึ้น 1 รายการ จำนวน 3 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 34 บาท คิดเป็นมูลค่า 102 ล้านบาท

 

แรงกดดันต่อหุ้นทั้ง 2 ตัว มาจากประเด็นที่ CBG ประกาศว่าจะตรึงราคาขายปลีกของเครื่องดื่มชูกำลังไว้ที่ 10 บาท สวนทางกับ OSP ที่มีข่าวว่าบริษัทได้แจ้งกับดีลเลอร์เกี่ยวกับการขึ้นราคาสินค้า ทำให้ดีลเลอร์ประเมินว่าราคาขายปลีกจะต้องเพิ่มขึ้นจาก 10 บาท เป็น 12 บาท

 



ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 


 

ล่าสุด แหล่งข่าวที่เป็นดีลเลอร์กล่าวว่า ตอนนี้คาราบาวแดงขายส่งลังละ 435 บาท เพิ่มขึ้นจาก 415-420 บาท แต่ยังขายปลีกที่ 10 บาทเท่าเดิม โดยบริษัทมีนโยบายขายถูกทั่วไทยทำให้ตรึงราคาไว้ก่อน ขณะที่กระทิงแดงขายลังละ 415 บาท อาจปรับขึ้นเป็น 420 บาท 

 

“อย่าง M150 หลังจากปรับราคา พบว่ายอดขายลดลงประมาณ 20-30% โดยหันไปซื้อกระทิงแดงกับคาราบาวแดงแทน ซึ่งขายดีขึ้น” แหล่งข่าวดีลเลอร์กล่าว

 

ด้าน บล.กสิกรไทย ประเมินว่า ประเด็นดังกล่าวเป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากข่าวดังกล่าวลดความคาดหวังเชิงบวกต่อการปรับขึ้นราคาขาย ทั้งนี้ เรายังมองเป็นกลางต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจาก 

 

  1. เรายังไม่ให้น้ำหนักการเกิดการแข่งขันรุนแรงถึงขั้นสงครามราคา (Pricing War) เนื่องจากปัจจุบันทุกบริษัทเผชิญปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเหมือนกัน 

 

  1. แม้ผู้เล่นในตลาดจะคงราคาขายที่ 10 บาทเท่าเดิม แต่จะใช้วิธีการออกสินค้าใหม่ที่ราคาขาย 12 บาทเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มอัตรากำไรมากขึ้น 

 

  1. ประเด็นดังกล่าวไม่มีดาวน์ไซด์จากประมาณการของเรา เนื่องจากเรายังไม่ได้รวมอัปไซด์จากการขึ้นราคาขายไว้ในประมาณการ

 

ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลง มองว่าเป็นโอกาสซื้อ OSP ที่ราคาพื้นฐาน 40.5 บาท ไม่รวมอัปไซด์จากการขึ้นราคาขาย นอกจากนี้ หุ้นยังมีแนวโน้มเชิงบวกจากการขยายตลาดต่างประเทศ ขณะเดียวกันมูลค่าหุ้นที่ถูกกว่าเมื่อเทียบ CBG และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอาจจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

 

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นลบต่อ OSP และ CBG ในส่วนของ OSP ทำให้โอกาสที่สินค้าใหม่ M-150 ขวด 12 บาทจะประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการให้มาแทนขวด 10 บาทภายในปีนี้ดูเป็นไปได้ยาก แม้เหตุการณ์อาจไม่กระทบต่อส่วนแบ่งการตลาด เพราะ OSP ยังมีการขายขวด 10 บาทตามเดิมต่อไป แต่อาจมีความเสี่ยงในเชิงอัตรากำไร เพราะไม่สามารถปรับราคาสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นได้มากกว่า หลังจากนี้ต้องอาศัยการออกสินค้าใหม่ต่อไป

 

ส่วน CBG การไม่ปรับขึ้นราคา จะทำให้แรงกดดันด้านต้นทุนสูงต่อไป ทั้งราคาอะลูมิเนียมและก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น และต้องอาศัยการออกสินค้าใหม่เช่นเดียวกัน 

 

อย่างไรก็ดี เรายังคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของกำไร OSP ในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ส่วนต้นทุนน้ำตาลและอะลูมิเนียมมีการล็อกไว้ถึงสิ้นปีแล้ว รวมถึงการออกสินค้าในกลุ่มกัญชงเพิ่มเติมระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565

 

คาราบาว

 

ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising