วานนี้ (6 กันยายน) นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาคดีการกลับคำสั่งไม่ฟ้อง วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อยู่วิทยา ข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 โดยช่วยเหลือเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถยนต์ เป็นทางการแล้วรวม 15 คน โดยผู้ที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา เช่น พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เมื่อครั้งเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งได้ติดต่อนักวิชาการเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลความเร็วของรถ
เนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ผู้ออกคำสั่งไม่ฟ้องคดีนี้, ชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมพิจารณาหลักฐานใหม่, พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีความใกล้ชิดกับพยาน, สายประสิทธิ์ เกิดนิยม นักวิชาการด้านวิศวกรรม กรณีให้ความเห็นเรื่องความเร็วรถ รวมถึงพนักงานสอบสวนบางนาย
ส่วน ธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สนช. ถูกกล่าวหาเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนจากทนายความของวรยุทธที่อ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่ และ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อครั้งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่มีความเห็นแย้ง หลังจากเนตร รองอัยการขณะนั้น สั่งไม่ฟ้องข้อหาความเร็วรถ ในกรณีของทั้ง 2 คน ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นควรส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอน ดำเนินการทางวินัย เนื่องจากไม่เป็นความผิดร้ายแรง
ส่วนขั้นตอนต่อไปจะส่งสำนวนไต่สวนเอกสารพยานหลักฐานให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องร้องต่อไป อย่างไรก็ตาม การชี้มูลความผิดครั้งนี้ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
สำหรับคดีวรยุทธ ปัจจุบันเหลือเพียง 1 คดี คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2570 ส่วนข้อหาอื่นหมดอายุความแล้ว และบางคดีถูกสั่งไม่ฟ้อง