วันนี้ (6 มิถุนายน) พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มไลน์ของนักเรียนที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดและคุกคามทางเพศว่า
กรณีข้างต้นตามที่เป็นข่าว เริ่มต้นจากนักเรียนชายที่เพิ่งผ่านการสอบคัดเลือกเป็นนิสิตใหม่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ตั้งกลุ่มไลน์ชื่อ LawMen ที่มีเฉพาะนักเรียนชาย ในช่วงแรกไม่มีการแชตพูดคุยกันมากนัก กระทั่งมีนักเรียนบางคนเริ่มชวนคุยเรื่องผู้หญิง และมีการนำภาพนิสิตหญิงมาลง พร้อมใช้คำพูดในเชิงคุกคามทางเพศ จากนั้นมีคนในกลุ่มไลน์ดังกล่าวที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าวนำภาพการสนทนาในกลุ่มเผยแพร่ลงสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เข้ามาตำหนิและกดดันนักเรียนชายในกลุ่มนี้ ซึ่งต่อมาทางคณะนิติศาสตร์ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เร่งรัดให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะดำเนินการต่อไปโดยเร็ว ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่ถูกกล่าวถึง อาจจะเกิดเป็นบาดแผลในจิตใจซึ่งส่งผลในระยะยาว และผู้ที่ถูกกล่าวถึงอาจจะรู้สึกไม่ปลอดภัยอีกต่อไปก็เป็นได้
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น ให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ และมีลักษณะส่อไปในทางที่ล่วงละเมิดทางเพศ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว ขอให้ผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวและมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็จะมีความผิดในแง่ของตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน ซึ่งจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอฝากแนวทางการหลีกเลี่ยงป้องกันถ้อยคำที่ส่อไปถึงการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ว่าควรเก็บข้อมูลส่วนตัวของตัวเองให้ดี ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ เคารพสิทธิของผู้อื่นอยู่เสมอ มีสติทุกครั้งในการแสดงความคิดเห็น ผู้ปกครองต้องคอยสอดส่องดูแลให้คำแนะนำในการใช้สื่อออนไลน์แก่บุตรหลาน และขอตักเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้หยุดการกระทำเสีย
นอกจากนี้หากพบเห็นการกระทำดังกล่าว อย่าส่งต่อ อย่าแสดงความคิดเห็น อย่าไปยุ่งเกี่ยวไม่ว่าจะทางใด เพราะทุกคนต่างเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ บนสังคมออนไลน์ให้หมดไป